รวม Iconic Places ของ 7 เมืองยอดฮิตในประเทศออสเตรเลีย

เมื่อพูดถึงประเทศ ‘ออสเตรเลีย’ เชื่อว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก Sydney Opera House ในเมืองซิดนีย์ หรือสัตว์ประจำถิ่นอย่างจิงโจ้ และโคอาล่า แน่นอน แต่ว่าออสเตรเลียไม่ได้มีแค่ซิดนีย์เท่านั้น วันนี้ One Education จะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละเมืองในประเทศออสเตรเลียกัน

1. ซิดนีย์ (Sydney)

เมืองที่ไม่ว่าใครก็ต้องคุ้นหู จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ซิดนีย์ เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย แต่ไม่ใช่! ซิดนีย์เป็นเพียงเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) เท่านั้น

ซิดนีย์ไม่ได้เป็นเพียงเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นที่ตั้งของโรงละครชื่อดังอย่าง ‘Sydney Opera House’ เท่านั้นที่ทำให้ซิดนีย์มีชื่อเสียง แต่ซิดนีย์ยังมีสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอย่าง ‘Sydney Harbour Bridge’ สะพานเหล็กโค้งอันทอดยาวที่มีชื่อเล่นว่า ‘Coat Hanger หรือไม้แขวนเสื้อ’ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ในเมือง สามารถมองเห็นทั้งเมืองฝั่งเหนือและฝั่งใต้ของซิดนีย์ รวมถึง Sydney Opera House ได้อย่างชัดเจน เดินอีกไม่ไกลจะถึง ‘The Rocks’ ย่านเก่าแก่ของซิดนีย์ที่เคยเป็นสถานที่ตั้งรกรากแห่งแรกของชาวอังกฤษ ซึ่งน้อง ๆ จะได้เห็นตึก อาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร และผับที่เก่าแก่ที่สุดในซิดนีย์ รวมถึงไฮไลท์อย่าง ‘Cadmans Cottage’ หนึ่งในสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 200 ปีนับจากยุคอาณานิคมที่นี่ด้วย

สำหรับน้อง ๆ สายอาร์ตที่รักการชอปปิ้ง สถานที่ต่อไปที่ไม่ควรพลาด คือ ‘Queen Victoria Building’ ศูนย์การค้าที่เปรียบเสมือนมงกุฎล้ำค่าของซิดนีย์ และสามารถเดินเอ็นจอยชอปปิ้งกันต่อได้ที่ Pitt Street และ Druitt Street ซึ่งตั้งอยู่โดยรอบ

นอกจากนี้ ซิดนีย์ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น     

  • Bondi Beach สำหรับน้อง ๆ ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ พักผ่อน เล่นเซิร์ฟ    
  • Chinatown และ Paddy’s Markets สำหรับน้อง ๆ ที่หลงใหลในอาหารเอเชียน    
  • Royal Botanic Garden และ Hyde Park สำหรับน้อง ๆ สายชิล ที่รักการปิกนิก  และผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ  

ถ้าชอบซิดนีย์ และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองซิดนีย์ที่แนะนำ ได้แก่


2. เมลเบิร์น (Melbourne

หนึ่งในเมืองที่ติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองท่าของรัฐวิกตอเรีย (Victoria) มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ เป็นเลิศด้านระบบดูแลสุขภาพและขนส่งสาธารณะ ผู้คนเป็นมิตร และต้อนรับชาวต่างชาติ มีขนาดและประชากรมากที่สุดติด Top 3 ในประเทศออสเตรเลีย ทำให้เมลเบิร์นเป็นอีกหนึ่งเมืองที่นักเรียนจากทั่วโลกนิยมเลือกไปศึกษาต่อ

ด้วยความที่เมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะล้ำสมัยที่สุดในประเทศออสเตรเลีย สถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของเมลเบิร์นจึงหนีไม่พ้น ‘Flinders Station’ ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกของประเทศออสเตรเลียแล้ว ยังเป็นจุดศูนย์รวมรถไฟและรถรางหรือ Tram ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น โดยรอบของสถานีรถไฟฟลินเดอร์ ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเก่าที่หรูหราและทันสมัย เช่น ‘The Hotel Windsor’ และหอสมุด ‘State Library Victoria’ รวมถึงตรอกซอกซอยที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และศิลปะบนกำแพงหรือกราฟฟิตี้ (Graffiti) ตลอดริมทางเดิน ไม่เพียงเท่านี้ ความหลากหลายทางอาหารและวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ ยังถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมลเบิร์น น้อง ๆ สายชอป ชิม ชิล ต้องหลงเสน่ห์ของเมืองนี้แน่นอน

นอกจากนี้ เมลเบิร์นยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ‘Brighton Beach’ ซึ่งมีจุดเด่นน่ารัก ๆ อย่าง ‘Brighton Bathing Boxes’ หรือห้องอาบน้ำสีสันสดใสเรียงรายอยู่เกือบ 100 หลัง และ ‘St. Kilda Beach’ ที่มี ‘St. Kilda Pier’ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน รวมถึง

  • Bourke Street Mall สำหรับน้อง ๆ สายชอปของแบรนด์เนม    
  • Queen Victoria Market สายเดินตลาด พร้อมซึมซับบรรยากาศท้องถิ่น 
  • National Gallery of Victoria, Melbourne Museum, Australian Centre for Contemporary Art และอื่น ๆ สำหรับน้อง ๆ สายมิวเซียม   
  • Fitzroy Gardens ที่ไม่ได้เป็นเพียงสวนสาธารณะ แต่ยังมี Cooks’ Cottage ของกัปตัน James Cook ผู้ค้นพบชายฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย และเมืองจำลองจิ๋ว Tudor Village

ถ้าชอบเมลเบิร์น และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองเมลเบิร์นที่แนะนำ ได้แก่


3. บริสเบน (Brisbane )

เมืองน้องใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับสายกิจกรรมกลางแจ้ง บริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland) เมืองที่มีแสงแดดอบอุ่นตลอดทั้งปี และนับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์และกิจกรรมต่างๆ ครบครันไม่ต่างจากซิดนีย์ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากสวรรค์ของคนรักกีฬาทางน้ำอย่างโกลด์โคสต์ (Gold Coast) และแนวปะการังยักษ์อย่าง Great Barrier Reef อีกด้วย

ถ้าซิดนีย์มี Harbour Bridge บริสเบนก็มีสัญลักษณ์สำคัญอย่าง ‘Story Bridge’ ที่ทอดยาวผ่านแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ซึ่งกิจกรรมเอาใจสายเอาท์ดอร์มีมากมาย เช่น การปีนสะพานเพื่อชมจุดสูงสุดของสะพาน การพายเรือคายัคในแม่น้ำบริสเบน หรือ แวะชม ‘Kangaroo Point Cliffs’ ซึ่งเป็นผาชมวิวสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สะพานสำคัญอย่าง ‘Kurilpa Bridge’ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ เพราะเป็นสะพานไฮบริดที่มีโครงสร้างแบบ Tensegrity ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อมระหว่างย่านศูนย์กลางทางธุรกิจของบริสเบนและเมืองฝั่งใต้อย่าง South Bank ที่มี ‘South Bank Parklands’ เป็นจุดดึงดูดผู้คนมากมาย เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวเมืองและเป็นศูนย์กลางทางศิลปะวัฒนธรรมของบริสเบน และยังมี ‘The Wheel of Brisbane’ หรือชิงช้าสวรรค์ที่สามารถชมวิวเมือง South Bank และแม่น้ำบริสเบสแบบ 360 องศา และ ‘Streets Beach’ หรือชายหาดจำลองกลางเมืองที่นำทรายมาจาก ‘Moreton Bay’ หรืออ่าวมอร์ตัน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของบริสเบนอีกด้วย

นอกจากนี้ บริสเบนยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น    

  • Queen Street Mall ย่านศูนย์กลางทางธุรกิจใจกลางเมือง สำหรับน้อง ๆ สายชอป
  • Brisbane Botanic Gardens และ Mt Coot-tha เพลินเพลินกับจุดชมวิว สายธรรมชาติไม่ควรพลาด     
  • Lone Pine Koala Sanctuary พบกับสัตว์ท้องถิ่นประจำประเทศออสเตรเลีย อย่างโคอาล่า จิงโจ้ หมาป่าดิงโก และอีกมากมาย

ที่สำคัญ กิจกรรมส่วนใหญ่ในบริสเบนคือ ฟรี!! ถ้าชอบบริสเบน และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองบริสเบนที่แนะนำ ได้แก่


4. เพิร์ธ (Perth )

เพิร์ธ เมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) สงบ ไม่พลุกพล่าน และถูกจัดให้เป็นเมืองน่าอยู่และโดดเด่นในด้านการศึกษาเมืองหนึ่งของโลก มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานต่ำ เหมาะแก่การไปศึกษาต่อ

เพิร์ธตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำสวอน (Swan River) หนึ่งในแม่น้ำสายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ดังนั้น สถานที่เยี่ยมชมที่สำคัญของเพิร์ธก็คือ ‘Swan Valley’ แหล่งต้นน้ำของแม่น้ำสวอน และเป็นเขตผลิตไวน์อันเก่าแก่ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของโรงบ่มไวน์ระดับ World-class กว่า 40 แห่ง นอกจากนี้ หากน้อง ๆ เป็นสายเที่ยวชมเมือง สัญลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเมืองเพิร์ธก็คือ หอระฆังหงส์ หรือ ‘Swan Bell Tower’ ที่มีชุดระฆังถึง 18 ชุดอยู่ภายในอาคารแก้วใจกลางเมืองเพิร์ธ ถัดจากหอระฆัง มี ‘Kings Park and Botanic Garden’ ที่นับว่าเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะใจกลางเมืองและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่และสวยที่สุดในโลก มีขนาดกว้างกว่า 400.6 เอเคอร์ และมีต้นโบแอบยักษ์ ‘Boab Tree’ ที่มีอายุมากว่า 750 ปี ที่มีชื่อเรียกว่า ‘Gija Jumula’ เป็นตัวละครหลักอีกด้วย

นอกจากนี้ เพิร์ธยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น    

  • London Court แหล่งชอปปิ้งที่ให้กลิ่นอายเหมือนตรอกไดแอกอนในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์    
  • Cottesloe Beach หาดทรายขาวสำหรับน้อง ๆ สายเซิร์ฟ นั่งชิวริมชายหาด และดำน้ำ 
  • Fremantle Prison และ Fremantle Markets สำหรับน้อง ๆ ที่ชอบทัวร์สถานที่ประวัติศาสตร์และย่านท้องถิ่น และชอปของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาบ้านด้วย

ถ้าชอบเพิร์ธ และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองเพิร์ธที่แนะนำ ได้แก่   


5. แอดิเลด (Adelaide )

แอดิเลด เมืองหลวงของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia) และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศออสเตรเลีย แต่คนส่วนใหญ่มักนึกไม่ถึง!

แอดิเลดได้ชื่อว่าเป็น Mini Melbourne ด้วยความคล้ายคลึงทั้งการให้บริการรถรางฟรีในเขตใจกลางเมือง และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟโดยเฉพาะลาเต้ อย่างไรก็ตาม แอดิเลดก็มีสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์อย่าง ‘Adelaide Oval’ ซึ่งไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นสนามกีฬาถูกจัดเป็นสถานที่สำคัญประจำแต่ละเมือง แต่สนามกีฬาแอดิเลดโอวัลคือสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นสถานที่จัดการแข่งขันคริกเกตนานาชาติที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ถึงขั้นมีพิพิธภัณฑ์ ‘Bradman Collection’ สำหรับคนรักคริกเกตโดยเฉพาะ นอกจากนี้น้อง ๆ ยังสามารถเที่ยวชมถนนสายสำคัญอย่าง ‘North Terrace’ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ‘Elder Park’, ‘Adelaide Botanic Garden’ และพิพิธภัณฑ์อีกมากมาย และจัตุรัส ‘Victoria Square’ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดสดในร่มที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง ‘Adelaide Central Market’ และยังอยู่ไม่ไกลจาก ‘Adelaide Chinatown’ อีกด้วย ถ้าหากน้อง ๆ นั่งรถรางออกจากตัวเมืองไปอีกประมาณ 25 นาที ก็จะได้พบกับ ‘Glenelg Beach’ ซึ่งเป็นหาดทรายขาวที่ฮอตที่สุดในเมืองแอดิเลด

นอกจากนี้ แอดิเลดยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น    

  • Cleland Wildlife Park สำหรับน้อง ๆ สายรักสัตว์ที่อยากลองให้อาหารจิงโจ้อย่างใกล้ชิด    
  • Port Adelaide สำหรับน้อง ๆ สายรักซีฟู้ด และอยากลองล่องเรือชมปลาโลมา    
  • Hahndorf ชุมชนชาวเยอรมันที่โยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานในประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ยุคแรก ๆ 

ถ้าชอบแอดิเลด และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองแอดิเลดที่แนะนำ ได้แก่   


6. แคนเบอร์ร่า (Canberra )

มาถึงเมืองหลวงที่แท้จริงของประเทศออสเตรเลียอย่างแคนเบอร์ร่ากันแล้ว แคนเบอร์ร่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Australian Capital Territory ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ภายในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระหว่างเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น และได้ชื่อว่าเป็นเมืองมีการจัดผังเมืองได้ดีที่สุดเมืองหนึ่งของโลกด้วย

ถึงแม้ว่าแคนเบอร์ร่าจะเป็นเมืองที่ตั้งของสถานที่ราชการ รัฐสภา ศาลฎีกา และอื่น ๆ แต่แคนเบอร์ร่าก็มี ‘Lake Burley Griffin’ หรือทะเลสาบกลางเมืองอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญ โดยได้ตั้งชื่อตามสถาปนิกชาวอเมริกัน Walter Burley Griffin ผู้ออกไอเดียการวางผังเมืองและสร้างทะเลสาบแห่งนี้ขึ้น รอบ ๆ ทะเลสาบเบอร์ลีย์กริฟฟินมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ ด้วย เช่น ‘New Parliament House’ หรือรัฐสภาใหม่ ที่มีโครงสร้างเป็นรูปบูมเมอแรง และ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสงครามออสเตรเลีย ‘Australian War Memorial’ ที่เริ่มก่อสร้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตจากสงครามต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นคือ ‘Wall of Honour’ ที่สลักชื่อทหารผู้ล่วงลับประดับด้วยดอกป๊อปปี้สีแดง ถ้าน้อง ๆ เป็นสายเดินป่าหรือปั่นจักรยาน ถัดจากพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสงครามออสเตรเลียนี้ น้อง ๆ สามารถขึ้นไปบน ‘Mount Ainslie Lookout’ เพื่อชมวิวของเมืองแคนเบอร์ร่าจากความสูง 2,766 ฟุตได้ด้วย

นอกจากนี้ แคนเบอร์ร่ายังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น    

  • Black Mountain สำหรับน้อง ๆ สายเดินป่าตามเส้นทางธรรมชาติ    
  • National Zoo & Aquarium    

ถ้าชอบแคนเบอร์ร่า และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองแคนเบอร์ร่าที่แนะนำ ได้แก่   


7. โฮบาร์ต (Hobart )

เมืองสุดท้ายที่พี่ ๆ One Education จะมาแนะนำกันในวันนี้ นั่นคือ โฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐทัสเมเนีย (Tasmania) ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ลักษณะคล้ายรูปหัวใจ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย แค่เห็นชื่อรัฐ ก็น่าค้นหาแล้วใช่ไหมล่ะ!

ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ด้านหนึ่งติดภูเขา ด้านหนึ่งติดชายฝั่งทะเล ทำให้สถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของโฮบาร์ตที่เรียกว่าถ้าไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง ก็คือ ‘Mount Wellington’ หรือที่ชาวท้องถิ่นเรียกว่า ‘Kunanyi’ เป็นภูเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทั่วทั้งเมืองโฮบาร์ตได้แบบ 360 องศา ถ้าน้อง ๆ เป็นสายเดินป่าสามารถใช้เส้นทาง ‘Organ Pipes’ เพื่อขึ้นไปชมจุดวิวที่สวยที่สุดของยอดเขานี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ โฮบาร์ตยังมีจุดท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกมากมาย เช่น ‘Salamanca Place’ และ ‘Salamanca Markets’ ที่รวบรวมกว่า 300 ร้านค้าสำหรับสินค้าทำมือ เครื่องประดับ เซรามิก ที่น้อง ๆ สายวินเทจไม่ควรพลาด รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Salamanca Arts Centre, Tasmania Museum & Art Gallery และ ‘Museum of Old and New Art (MONA)’ ที่รวบรวมของสะสมซึ่งหาชมได้ยาก โดยเฉพาะในแกลเลอรี่แอฟริกันและอียิปต์ และเอกลักษณ์สำคัญอย่างสุดท้ายที่พี่ ๆ One Education จะแนะนำ หากน้อง ๆ มีเวลาเดินทางไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของโฮบาร์ต น้อง ๆ จะได้พบกับ ‘Richmond Bridge’ สะพานหินทรายที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ที่สร้างโดยนักโทษจากคุกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งในปัจจุบันห้องคุมขังและสะพานริชมอนด์บริดจ์ยังคงเปิดให้เข้าชมตามปกติ

นอกจากนี้ โฮบาร์ตยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น    

  • Bonorong Wildlife Sanctuary University of Tasmania สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเห็นทัสเมเนียนเดวิล (Tasmanian devils) สัตว์ประจำรัฐทัสเมเนียแบบตัวเป็น ๆ   
  • Cradle Mountain สำหรับน้อง ๆ สายเที่ยวชมอุทยาน และขอบอกตรงนี้ว่า ที่นี่ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของประเทศออสเตรเลียอีกด้วย   
  • Bay of Fires แม้จะไม่ได้อยู่ในโฮบาร์ต แต่ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่น้อง ๆ ไม่ควรพลาด ในรัฐทัสมาเนีย 

ถ้าชอบโฮบาร์ต และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองโฮบาร์ตที่แนะนำ ได้แก่   


สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากพี่ ๆ ทีมงาน One Education ได้เลยไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเลือกมหาวิทยาลัย หลักสูตร และความเป็นอยู่ของเมืองในออสเตรเลียที่สนใจ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาฟรีและบริการครบทุกขั้นตอนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718

ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia

Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education

ONE EDUCATION

เราเป็นตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยในอังกฤษและประเทศออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ รวมถึงยังให้คำปรึกษาและบริการครบทุกขั้นตอนกับนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติในประเทศไทย โดยไม่มีค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น

30 years experience Established since 1991
ประสบการณ์เชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี

ด้านการเรียนต่ออังกฤษและออสเตรเลีย

3 offices in Thailand
เปิดบริการ 3 สาขา

ในกรุงเทพ ประเทศไทย

Group of Eight Representative
ตัวแทนมหาวิทยาลัย Group of Eight

กลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำครบทั้ง 8 แห่งของออสเตรเลีย

Russell Group Representatives
ตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษ

ตัวแทนมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง รวมถึงกลุ่ม Russell Group

Qualified Education Agent
ทีมงานที่ปรึกษาได้การรับรองคุณภาพ

ในการเป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อที่อังกฤษและออสเตรเลีย

Support 3,000+ students
ดูแลนักเรียนมากกว่า 3,000 คน

ทั้งนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติในไทยได้ไปเรียนต่อตามเป้าหมาย

One Education ให้บริการเรียนต่อต่างประเทศระดับมืออาชีพ โดยการร่วมมือระหว่าง Hamilton International ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักร และ Insight Education Consulting ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อที่ออสเตรเลีย เรารวมกันเป็น "หนึ่ง" เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีกว่าและตอบโจทย์การเรียนต่อต่างประเทศที่ครบวงจร