รวม Iconic Places ของ 7 เมืองยอดฮิตในประเทศออสเตรเลีย
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่ออสเตรเลีย | เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
- August 29, 2022
- One Education
เมื่อพูดถึงประเทศ ‘ออสเตรเลีย’ เชื่อว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก Sydney Opera House ในเมืองซิดนีย์ หรือสัตว์ประจำถิ่นอย่างจิงโจ้ และโคอาล่า แน่นอน แต่ว่าออสเตรเลียไม่ได้มีแค่ซิดนีย์เท่านั้น วันนี้ One Education จะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นสัญลักษณ์ของแต่ละเมืองในประเทศออสเตรเลียกัน
1. ซิดนีย์ (Sydney)
เมืองที่ไม่ว่าใครก็ต้องคุ้นหู จนทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ซิดนีย์ เป็นเมืองหลวงของประเทศออสเตรเลีย แต่ไม่ใช่! ซิดนีย์เป็นเพียงเมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) เท่านั้น
ซิดนีย์ไม่ได้เป็นเพียงเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นที่ตั้งของโรงละครชื่อดังอย่าง ‘Sydney Opera House’ เท่านั้นที่ทำให้ซิดนีย์มีชื่อเสียง แต่ซิดนีย์ยังมีสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอย่าง ‘Sydney Harbour Bridge’ สะพานเหล็กโค้งอันทอดยาวที่มีชื่อเล่นว่า ‘Coat Hanger หรือไม้แขวนเสื้อ’ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ตั้งอยู่ในเมือง สามารถมองเห็นทั้งเมืองฝั่งเหนือและฝั่งใต้ของซิดนีย์ รวมถึง Sydney Opera House ได้อย่างชัดเจน เดินอีกไม่ไกลจะถึง ‘The Rocks’ ย่านเก่าแก่ของซิดนีย์ที่เคยเป็นสถานที่ตั้งรกรากแห่งแรกของชาวอังกฤษ ซึ่งน้อง ๆ จะได้เห็นตึก อาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร และผับที่เก่าแก่ที่สุดในซิดนีย์ รวมถึงไฮไลท์อย่าง ‘Cadmans Cottage’ หนึ่งในสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 200 ปีนับจากยุคอาณานิคมที่นี่ด้วย
สำหรับน้อง ๆ สายอาร์ตที่รักการชอปปิ้ง สถานที่ต่อไปที่ไม่ควรพลาด คือ ‘Queen Victoria Building’ ศูนย์การค้าที่เปรียบเสมือนมงกุฎล้ำค่าของซิดนีย์ และสามารถเดินเอ็นจอยชอปปิ้งกันต่อได้ที่ Pitt Street และ Druitt Street ซึ่งตั้งอยู่โดยรอบ
นอกจากนี้ ซิดนีย์ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- Bondi Beach สำหรับน้อง ๆ ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำ พักผ่อน เล่นเซิร์ฟ
- Chinatown และ Paddy’s Markets สำหรับน้อง ๆ ที่หลงใหลในอาหารเอเชียน
- Royal Botanic Garden และ Hyde Park สำหรับน้อง ๆ สายชิล ที่รักการปิกนิก และผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ
ถ้าชอบซิดนีย์ และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองซิดนีย์ที่แนะนำ ได้แก่
- Macquarie University
- University of Sydney (Group of Eight)
- UNSW Sydney (Group of Eight)
2. เมลเบิร์น (Melbourne)
หนึ่งในเมืองที่ติดอันดับเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก เป็นทั้งเมืองหลวงและเมืองท่าของรัฐวิกตอเรีย (Victoria) มีอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ เป็นเลิศด้านระบบดูแลสุขภาพและขนส่งสาธารณะ ผู้คนเป็นมิตร และต้อนรับชาวต่างชาติ มีขนาดและประชากรมากที่สุดติด Top 3 ในประเทศออสเตรเลีย ทำให้เมลเบิร์นเป็นอีกหนึ่งเมืองที่นักเรียนจากทั่วโลกนิยมเลือกไปศึกษาต่อ
ด้วยความที่เมลเบิร์นเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะล้ำสมัยที่สุดในประเทศออสเตรเลีย สถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของเมลเบิร์นจึงหนีไม่พ้น ‘Flinders Station’ ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกของประเทศออสเตรเลียแล้ว ยังเป็นจุดศูนย์รวมรถไฟและรถรางหรือ Tram ที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น โดยรอบของสถานีรถไฟฟลินเดอร์ ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมและห้างสรรพสินค้า ด้วยสถาปัตยกรรมแบบเก่าที่หรูหราและทันสมัย เช่น ‘The Hotel Windsor’ และหอสมุด ‘State Library Victoria’ รวมถึงตรอกซอกซอยที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และศิลปะบนกำแพงหรือกราฟฟิตี้ (Graffiti) ตลอดริมทางเดิน ไม่เพียงเท่านี้ ความหลากหลายทางอาหารและวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ ยังถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเมลเบิร์น น้อง ๆ สายชอป ชิม ชิล ต้องหลงเสน่ห์ของเมืองนี้แน่นอน
นอกจากนี้ เมลเบิร์นยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ‘Brighton Beach’ ซึ่งมีจุดเด่นน่ารัก ๆ อย่าง ‘Brighton Bathing Boxes’ หรือห้องอาบน้ำสีสันสดใสเรียงรายอยู่เกือบ 100 หลัง และ ‘St. Kilda Beach’ ที่มี ‘St. Kilda Pier’ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน รวมถึง
- Bourke Street Mall สำหรับน้อง ๆ สายชอปของแบรนด์เนม
- Queen Victoria Market สายเดินตลาด พร้อมซึมซับบรรยากาศท้องถิ่น
- National Gallery of Victoria, Melbourne Museum, Australian Centre for Contemporary Art และอื่น ๆ สำหรับน้อง ๆ สายมิวเซียม
- Fitzroy Gardens ที่ไม่ได้เป็นเพียงสวนสาธารณะ แต่ยังมี Cooks’ Cottage ของกัปตัน James Cook ผู้ค้นพบชายฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย และเมืองจำลองจิ๋ว Tudor Village
ถ้าชอบเมลเบิร์น และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองเมลเบิร์นที่แนะนำ ได้แก่
- Monash University (Group of Eight)
- Swinburne University of Technology
- University of Melbourne (Group of Eight)
- Deakin University
3. บริสเบน (Brisbane )
เมืองน้องใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับสายกิจกรรมกลางแจ้ง บริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland) เมืองที่มีแสงแดดอบอุ่นตลอดทั้งปี และนับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์และกิจกรรมต่างๆ ครบครันไม่ต่างจากซิดนีย์ แถมยังอยู่ไม่ไกลจากสวรรค์ของคนรักกีฬาทางน้ำอย่างโกลด์โคสต์ (Gold Coast) และแนวปะการังยักษ์อย่าง Great Barrier Reef อีกด้วย
ถ้าซิดนีย์มี Harbour Bridge บริสเบนก็มีสัญลักษณ์สำคัญอย่าง ‘Story Bridge’ ที่ทอดยาวผ่านแม่น้ำบริสเบน (Brisbane River) ซึ่งกิจกรรมเอาใจสายเอาท์ดอร์มีมากมาย เช่น การปีนสะพานเพื่อชมจุดสูงสุดของสะพาน การพายเรือคายัคในแม่น้ำบริสเบน หรือ แวะชม ‘Kangaroo Point Cliffs’ ซึ่งเป็นผาชมวิวสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สะพานสำคัญอย่าง ‘Kurilpa Bridge’ ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ เพราะเป็นสะพานไฮบริดที่มีโครงสร้างแบบ Tensegrity ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เชื่อมระหว่างย่านศูนย์กลางทางธุรกิจของบริสเบนและเมืองฝั่งใต้อย่าง South Bank ที่มี ‘South Bank Parklands’ เป็นจุดดึงดูดผู้คนมากมาย เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับชาวเมืองและเป็นศูนย์กลางทางศิลปะวัฒนธรรมของบริสเบน และยังมี ‘The Wheel of Brisbane’ หรือชิงช้าสวรรค์ที่สามารถชมวิวเมือง South Bank และแม่น้ำบริสเบสแบบ 360 องศา และ ‘Streets Beach’ หรือชายหาดจำลองกลางเมืองที่นำทรายมาจาก ‘Moreton Bay’ หรืออ่าวมอร์ตัน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของบริสเบนอีกด้วย
นอกจากนี้ บริสเบนยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- Queen Street Mall ย่านศูนย์กลางทางธุรกิจใจกลางเมือง สำหรับน้อง ๆ สายชอป
- Brisbane Botanic Gardens และ Mt Coot-tha เพลินเพลินกับจุดชมวิว สายธรรมชาติไม่ควรพลาด
- Lone Pine Koala Sanctuary พบกับสัตว์ท้องถิ่นประจำประเทศออสเตรเลีย อย่างโคอาล่า จิงโจ้ หมาป่าดิงโก และอีกมากมาย
ที่สำคัญ กิจกรรมส่วนใหญ่ในบริสเบนคือ ฟรี!! ถ้าชอบบริสเบน และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองบริสเบนที่แนะนำ ได้แก่
- Griffith University
- University of Queensland (Group of Eight)
4. เพิร์ธ (Perth )
เพิร์ธ เมืองหลวงของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย (Western Australia) สงบ ไม่พลุกพล่าน และถูกจัดให้เป็นเมืองน่าอยู่และโดดเด่นในด้านการศึกษาเมืองหนึ่งของโลก มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานต่ำ เหมาะแก่การไปศึกษาต่อ
เพิร์ธตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำสวอน (Swan River) หนึ่งในแม่น้ำสายที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ดังนั้น สถานที่เยี่ยมชมที่สำคัญของเพิร์ธก็คือ ‘Swan Valley’ แหล่งต้นน้ำของแม่น้ำสวอน และเป็นเขตผลิตไวน์อันเก่าแก่ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ทำให้หุบเขาแห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของโรงบ่มไวน์ระดับ World-class กว่า 40 แห่ง นอกจากนี้ หากน้อง ๆ เป็นสายเที่ยวชมเมือง สัญลักษณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเมืองเพิร์ธก็คือ หอระฆังหงส์ หรือ ‘Swan Bell Tower’ ที่มีชุดระฆังถึง 18 ชุดอยู่ภายในอาคารแก้วใจกลางเมืองเพิร์ธ ถัดจากหอระฆัง มี ‘Kings Park and Botanic Garden’ ที่นับว่าเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะใจกลางเมืองและสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่และสวยที่สุดในโลก มีขนาดกว้างกว่า 400.6 เอเคอร์ และมีต้นโบแอบยักษ์ ‘Boab Tree’ ที่มีอายุมากว่า 750 ปี ที่มีชื่อเรียกว่า ‘Gija Jumula’ เป็นตัวละครหลักอีกด้วย
นอกจากนี้ เพิร์ธยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- London Court แหล่งชอปปิ้งที่ให้กลิ่นอายเหมือนตรอกไดแอกอนในภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์
- Cottesloe Beach หาดทรายขาวสำหรับน้อง ๆ สายเซิร์ฟ นั่งชิวริมชายหาด และดำน้ำ
- Fremantle Prison และ Fremantle Markets สำหรับน้อง ๆ ที่ชอบทัวร์สถานที่ประวัติศาสตร์และย่านท้องถิ่น และชอปของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับมาบ้านด้วย
ถ้าชอบเพิร์ธ และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองเพิร์ธที่แนะนำ ได้แก่
- University of Western Australia (Group of Eight)
5. แอดิเลด (Adelaide )
แอดิเลด เมืองหลวงของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia) และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศออสเตรเลีย แต่คนส่วนใหญ่มักนึกไม่ถึง!
แอดิเลดได้ชื่อว่าเป็น Mini Melbourne ด้วยความคล้ายคลึงทั้งการให้บริการรถรางฟรีในเขตใจกลางเมือง และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟโดยเฉพาะลาเต้ อย่างไรก็ตาม แอดิเลดก็มีสถานที่อันเป็นสัญลักษณ์อย่าง ‘Adelaide Oval’ ซึ่งไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นสนามกีฬาถูกจัดเป็นสถานที่สำคัญประจำแต่ละเมือง แต่สนามกีฬาแอดิเลดโอวัลคือสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย และเป็นสถานที่จัดการแข่งขันคริกเกตนานาชาติที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ถึงขั้นมีพิพิธภัณฑ์ ‘Bradman Collection’ สำหรับคนรักคริกเกตโดยเฉพาะ นอกจากนี้น้อง ๆ ยังสามารถเที่ยวชมถนนสายสำคัญอย่าง ‘North Terrace’ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น ‘Elder Park’, ‘Adelaide Botanic Garden’ และพิพิธภัณฑ์อีกมากมาย และจัตุรัส ‘Victoria Square’ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดสดในร่มที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง ‘Adelaide Central Market’ และยังอยู่ไม่ไกลจาก ‘Adelaide Chinatown’ อีกด้วย ถ้าหากน้อง ๆ นั่งรถรางออกจากตัวเมืองไปอีกประมาณ 25 นาที ก็จะได้พบกับ ‘Glenelg Beach’ ซึ่งเป็นหาดทรายขาวที่ฮอตที่สุดในเมืองแอดิเลด
นอกจากนี้ แอดิเลดยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- Cleland Wildlife Park สำหรับน้อง ๆ สายรักสัตว์ที่อยากลองให้อาหารจิงโจ้อย่างใกล้ชิด
- Port Adelaide สำหรับน้อง ๆ สายรักซีฟู้ด และอยากลองล่องเรือชมปลาโลมา
- Hahndorf ชุมชนชาวเยอรมันที่โยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานในประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ยุคแรก ๆ
ถ้าชอบแอดิเลด และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองแอดิเลดที่แนะนำ ได้แก่
- University of Adelaide (Group of Eight)
6. แคนเบอร์ร่า (Canberra )
มาถึงเมืองหลวงที่แท้จริงของประเทศออสเตรเลียอย่างแคนเบอร์ร่ากันแล้ว แคนเบอร์ร่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ Australian Capital Territory ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ภายในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระหว่างเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น และได้ชื่อว่าเป็นเมืองมีการจัดผังเมืองได้ดีที่สุดเมืองหนึ่งของโลกด้วย
ถึงแม้ว่าแคนเบอร์ร่าจะเป็นเมืองที่ตั้งของสถานที่ราชการ รัฐสภา ศาลฎีกา และอื่น ๆ แต่แคนเบอร์ร่าก็มี ‘Lake Burley Griffin’ หรือทะเลสาบกลางเมืองอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญ โดยได้ตั้งชื่อตามสถาปนิกชาวอเมริกัน Walter Burley Griffin ผู้ออกไอเดียการวางผังเมืองและสร้างทะเลสาบแห่งนี้ขึ้น รอบ ๆ ทะเลสาบเบอร์ลีย์กริฟฟินมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ ด้วย เช่น ‘New Parliament House’ หรือรัฐสภาใหม่ ที่มีโครงสร้างเป็นรูปบูมเมอแรง และ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสงครามออสเตรเลีย ‘Australian War Memorial’ ที่เริ่มก่อสร้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อระลึกถึงทหารที่เสียชีวิตจากสงครามต่าง ๆ โดยมีจุดเด่นคือ ‘Wall of Honour’ ที่สลักชื่อทหารผู้ล่วงลับประดับด้วยดอกป๊อปปี้สีแดง ถ้าน้อง ๆ เป็นสายเดินป่าหรือปั่นจักรยาน ถัดจากพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสงครามออสเตรเลียนี้ น้อง ๆ สามารถขึ้นไปบน ‘Mount Ainslie Lookout’ เพื่อชมวิวของเมืองแคนเบอร์ร่าจากความสูง 2,766 ฟุตได้ด้วย
นอกจากนี้ แคนเบอร์ร่ายังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- Black Mountain สำหรับน้อง ๆ สายเดินป่าตามเส้นทางธรรมชาติ
- National Zoo & Aquarium
ถ้าชอบแคนเบอร์ร่า และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองแคนเบอร์ร่าที่แนะนำ ได้แก่
- University of Canberra
- Australia National University (Group of Eight)
7. โฮบาร์ต (Hobart )
เมืองสุดท้ายที่พี่ ๆ One Education จะมาแนะนำกันในวันนี้ นั่นคือ โฮบาร์ต เมืองหลวงของรัฐทัสเมเนีย (Tasmania) ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ลักษณะคล้ายรูปหัวใจ อยู่ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย แค่เห็นชื่อรัฐ ก็น่าค้นหาแล้วใช่ไหมล่ะ!
ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่ด้านหนึ่งติดภูเขา ด้านหนึ่งติดชายฝั่งทะเล ทำให้สถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของโฮบาร์ตที่เรียกว่าถ้าไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึง ก็คือ ‘Mount Wellington’ หรือที่ชาวท้องถิ่นเรียกว่า ‘Kunanyi’ เป็นภูเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทั่วทั้งเมืองโฮบาร์ตได้แบบ 360 องศา ถ้าน้อง ๆ เป็นสายเดินป่าสามารถใช้เส้นทาง ‘Organ Pipes’ เพื่อขึ้นไปชมจุดวิวที่สวยที่สุดของยอดเขานี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ โฮบาร์ตยังมีจุดท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกมากมาย เช่น ‘Salamanca Place’ และ ‘Salamanca Markets’ ที่รวบรวมกว่า 300 ร้านค้าสำหรับสินค้าทำมือ เครื่องประดับ เซรามิก ที่น้อง ๆ สายวินเทจไม่ควรพลาด รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Salamanca Arts Centre, Tasmania Museum & Art Gallery และ ‘Museum of Old and New Art (MONA)’ ที่รวบรวมของสะสมซึ่งหาชมได้ยาก โดยเฉพาะในแกลเลอรี่แอฟริกันและอียิปต์ และเอกลักษณ์สำคัญอย่างสุดท้ายที่พี่ ๆ One Education จะแนะนำ หากน้อง ๆ มีเวลาเดินทางไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของโฮบาร์ต น้อง ๆ จะได้พบกับ ‘Richmond Bridge’ สะพานหินทรายที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ที่สร้างโดยนักโทษจากคุกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งในปัจจุบันห้องคุมขังและสะพานริชมอนด์บริดจ์ยังคงเปิดให้เข้าชมตามปกติ
นอกจากนี้ โฮบาร์ตยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- Bonorong Wildlife Sanctuary University of Tasmania สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเห็นทัสเมเนียนเดวิล (Tasmanian devils) สัตว์ประจำรัฐทัสเมเนียแบบตัวเป็น ๆ
- Cradle Mountain สำหรับน้อง ๆ สายเที่ยวชมอุทยาน และขอบอกตรงนี้ว่า ที่นี่ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของประเทศออสเตรเลียอีกด้วย
- Bay of Fires แม้จะไม่ได้อยู่ในโฮบาร์ต แต่ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่น้อง ๆ ไม่ควรพลาด ในรัฐทัสมาเนีย
ถ้าชอบโฮบาร์ต และอยากไปเรียนต่อที่เมืองนี้ มหาวิทยาลัยในเมืองโฮบาร์ตที่แนะนำ ได้แก่
สามารถขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากพี่ ๆ ทีมงาน One Education ได้เลยไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเลือกมหาวิทยาลัย หลักสูตร และความเป็นอยู่ของเมืองในออสเตรเลียที่สนใจ พี่ ๆ ยินดีให้คำปรึกษาฟรีและบริการครบทุกขั้นตอนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
รวมลิสต์! ทุนเรียนต่อออสเตรเลียปี 2025 แนะนำ School of Education and Childhood ที่ UWE Bristol ประกาศสำคัญ! ออสเตรเลียจำกัดโควตารับนักเรียนต่างชาติในปี 2025 แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทสาขาแพทย์ผิวหนัง (Clinical Dermatology) ที่ประเทศอังกฤษ เรียนพร้อมฝึกงานที่ออสเตรเลียกับ Academia Internationalหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา