University of Western Australia มหาวิทยาลัยชั้นนำในกลุ่ม Group of Eight มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่นักเรียนไทยส่วนใหญ่คาดไม่ถึง! คาดไม่ถึงในเรื่องอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย

1. มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย 

เหตุผลแรกและเหตุผลหลักว่าทำไมต้องเลือกมาเรียนต่อที่ University of Western Australia นั่นก็คือความเป็น “มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ที่ดีที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย” ทั้งยังเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำที่ได้รับการยอมรับด้านการวิจัยของประเทศออสเตรเลีย หรือ Group of Eight อีกด้วย 

มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1911 เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการประเมินคุณภาพระดับ 5 ดาว ทั้งในด้านการตอบสนองความต้องการของนักศึกษา อัตราส่วนระหว่างนักศึกษาและอาจารย์ รวมถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์ในห้องเรียน โดย Good Universities Guide 2022 ไม่เพียงเท่านั้น เพราะมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียได้รับการการันตีด้วยการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 7 ของประเทศ และ Top 100 ของโลก โดย QS World University Rankings 2024 โดยหลักสูตรกว่า 40 หลักสูตรติดอันดับ Top 150 หลักสูตรที่มีคุณภาพมากที่สุดของโลก โดย ARWU 2022 และ QS 2023 ซึ่งหลักสูตรที่ติดอันดับใน Top 50 ของโลกได้แก่ 

• Earth and Marine Sciences – No.2 ของออสเตรเลีย 
• Geology – No.2 ของออสเตรเลีย 
• Agricultural Sciences and Forestry – No.3 ของออสเตรเลีย 
• Anatomy and Physiology – No.3 ของออสเตรเลีย 
• Geophysics – No.3 ของออสเตรเลีย 
• Biological Sciences  
• Clinical Medicine  
• Ecology  
• Environmental Science and Engineering  
• Mineral and Mining Engineering  
• Oceanology 
• Petroleum Engineering  
• Water Resources เป็นต้น 

2. โลเคชั่นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียมีวิทยาเขตหลักตั้งอยู่ใจกลางเมืองเพิร์ธ บริเวณอ่าวมาทิลดา ริมโค้งแม่น้ำสวอน (Swan River) ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายหลักที่เก่าแก่ที่สุดของโลก และยังได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่สวยที่สุดในประเทศออสเตรเลียอีกด้วย นอกจากนี้ เมืองเพิร์ธยังได้รับฉายา ‘Australia’s Sunniest Capital City’ เมืองหลวงของรัฐที่มีแสงแดดมากที่สุดในออสเตรเลีย ทำให้มีอากาศอบอุ่น บวกกับบรรยากาศร่มรื่นของพื้นที่สีเขียวที่มีมากถึง 40% ของพื้นที่ทั้งหมดในเมือง แถมยังเป็นเมืองที่ไม่มีการปรับเวลาตาม Daylight Saving Time ทำให้เวลาเร็วกว่าประเทศไทยเพียง 1 ชั่วโมงตลอดทั้งปี 

ภายในวิทยาเขตมีบริเวณกว้างขวาง เป็นที่ตั้งของคณะส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัย เช่น Business School, Dental School, Law School, School of Engineering, School of Humanities ที่มีนกยูงเป็นเอกลักษณ์ประจำคณะ และคณะอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งวิทยาเขตนี้อยู่ห่างจาก Perth CBD เพียง 10-20 นาทีเท่านั้น และยังอยู่ไม่ไกลจากสวนพฤกษศาสตร์ Kings Park และชายหาดอย่าง Leighton Beach และ Cottesloe Beach อีกด้วย นอกจากนี้ University of Western Australia ยังมีอีก 2 วิทยาเขต คือ UWA Health Campus ที่ตั้งอยู่ใน Queen Elizabeth II Medical Centre และ UWA Albany เป็นวิทยาเขตทางใต้และเป็นศูนย์วิจัยทางธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ทางทะเล และการแพทย์ชนบท 

3. ขอวีซ่าอยู่ต่อได้นานขึ้น โอกาสในการทำงานก็มากขึ้น

ความปังยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะนอกจากโลเคชั่นที่ดีแล้ว เมืองเพิร์ธยังถูกจัดอยู่ในเขต Regional Area หรือเขตภูมิภาคที่มีการส่งเสริมการย้ายถิ่นฐาน เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตรเฉพาะทาง และเป็นศูนย์กลางทางอุตสาหกรรม เช่น เหล็ก แร่ สมุทรศาสตร์ และนวัตกรรมอื่น ๆ ที่สำคัญของประเทศ ทำให้นักศึกษาที่เรียนจบจาก University of Western Australia หรือมหาวิทยาลัยอื่นในเขตภูมิภาค ได้รับโอกาสในการขอวีซ่าเพื่ออยู่ต่อได้มากกว่าเมืองใหญ่ เช่น ซิดนีย์ เมลเบิร์น และบริสเบน มากถึง 2-4 ปี ขึ้นอยู่กับระดับปริญญาที่เรียนจบ เช่น ปริญญาตรี สามารถขอวีซ่าเพื่ออยู่ต่อจากเดิม 2 ปีเป็น 4  ปี หรือปริญญาโทจากเดิม 3 ปีเป็น 5 ปี และยังมีโอกาสขอเป็นพลเมืองออสเตรเลีย (Permanent Resident) เพิ่มขึ้นอีกด้วย 

และจากการจัดอันดับของ QS Graduate Employability Ranking 2022 มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียเองก็เป็นอันดับ 1 ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียที่บัณฑิตได้รับการจ้างงานสูงสุด รวมถึงความพึงพอใจของนายจ้าง ทั้งในด้านองค์ความรู้ของบัณฑิต ทักษะการปรับตัว การทำงานเป็นทีม และความสามารถด้านเทคนิคต่าง ๆ และทางมหาวิทยาลัยยังเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท องค์กร และอุตสาหกรรมต่าง ๆ อีกกว่า 4,500 ราย

4. กิจกรรมล้มหลาม ทั้งภายในและนอกมหาวิทยาลัย 

เพิร์ธเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เป็นที่นิยมสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง แม้ตัวเมืองจะมีความสงบ ไม่พลุกพล่านวุ่นวายเหมือนกับเมืองใหญ่ แต่บรรยากาศและกิจกรรมที่หลากหลายก็ทำให้ชีวิตนักศึกษาไม่น่าเบื่อ ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือเทศกาลมากมาย ทั้งสำหรับสายอินดี้ และสายอินเตอร์ เช่น เทศกาลหนังกลางแจ้งชื่อดัง Perth Festival และ Lotterywest Films ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Perth Festival ที่จัดขึ้นใน Somerville Auditorium ของมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลีย เทศกาลดนตรีและศิลปะที่มีจัดอยู่เรื่อย ๆ และ Southwest Multicultural Festival ซึ่งเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม 

นอกจากนี้ University of Western Australia ยังเป็นอันดับ 1 ของประเทศออสเตรเลีย ด้าน On-Campus Events and Activities โดย International Student Barometer Survey ดังนั้น ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะเหงา เพราะภายในมหาวิทยาลัยมีทั้งเวิร์กชอป ค่ายอาสา จุด Instagrammable Spots สำหรับถ่ายรูปเก๋ ๆ คาเฟ่พร้อมส่วนลดสำหรับนักศึกษา และชมรมอีกมากกว่า 150 ชมรมที่เปิดรับนักศึกษาจากทุกสัญชาติ ทุกอัตลักษณ์ นักศึกษาไทยสามารถเข้าร่วม Thai–Australian Association of WA ได้ หรือนักศึกษา LGBTQ+ ก็มี Pride Department เช่นกัน  

5. บริการนักศึกษาครอบคลุม

อยู่ต่างบ้านต่างเมืองก็ต้องกังวลเป็นธรรมดา แต่ที่มหาวิทยาลัยเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้นมีบริการสำหรับนักศึกษาตั้งแต่ Mental Health and Wellbeing Support, Financial Support, International Students Essentials, Medical Services และยังครอบคลุมไปถึง Sexual Harassment and Assault Support อีกด้วย หากน้อง ๆ สนใจเรียนต่อ University of Western Australia แต่อยากได้คำปรึกษาจากคนที่มีประสบการณ์ตรง ทางมหาวิทยาลัยก็มีแพลตฟอร์มที่เรียกว่า ‘UniBuddy’ ที่นักเรียนสามารถพูดคุยผ่านแชทกับนักศึกษาต่างชาติที่กำลังเรียนอยู่ที่นี่ได้ และหากเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย ทางมหาวิทยาลัยก็มีสายด่วนและแอปพลิเคชัน SafeZone ที่ช่วยดูแลนักศึกษาตลอด 24 ชั่วโมง 

สนใจเรียนต่อ University of Western Australia สอบถามข้อมูลและสมัครเรียนได้กับทีมงาน One Education ตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำของออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ  เรายินดีบริการและดูแลเรื่องเรียนต่อออสเตรเลียครบทุกขั้นตอนฟรี    
Add Line: @one-edu 
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ 
โทรสอบถาม: 02-652-0718    

One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว 

ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia   

Facebook: One Education   
Instagram: oneeducationthailand   
Twitter: One Education   
YouTube: One Education