เช็กลิสต์! การเตรียมตัวสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษรอบ September Intake 2024

เรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษรอบ September Intake 2024

น้อง ๆ หลายคนอาจจะกำลังเริ่มต้นหาข้อมูล เตรียมตัว เตรียมเอกสาร สำหรับการสมัครเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยของอังกฤษ ในบทความนี้ พี่เอม One Education จะมาแชร์เช็กลิสต์เอกสารที่ต้องเตรียมและตอบคำถามที่น้อง ๆ ถามกันเข้ามาบ่อย ๆ ในการเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ September Intake 2024 อยากรู้แล้วใช่มั้ยว่าจะมีลิสต์อะไรบ้าง มาอ่านต่อกันเลย 

เรียนปริญญาโทที่อังกฤษ September Intake 2024

ค้นหาหลักสูตร และ มหาวิทยาลัยที่ใช่

ก่อนที่เราจะสมัครเรียนได้นั้น น้อง ๆ ควรเริ่มจากการค้นหาหลักสูตร และ มหาวิทยาลัยที่ตรงใจเรากันก่อน การพิจารณาเลือกหลักสูตรระดับปริญญาโท พี่เอม One Education จะมาแนะนำเกณฑ์การพิจารณาให้ 5 ข้อ ดังนี้ 

  1. Set your purpose 

อันดับแรก น้อง ๆ ต้องตั้งเป้าหมายในการเรียน ค้นหาเหตุผลที่เราอยากเรียนปริญญาโท เรียนแล้วอยากไปต่อยอดทำอะไรหลังจากเรียนจบ โดยหลักสูตรนี้จะทำให้น้อง ๆ บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้หรือไม่  

  1. Do your research 

ระหว่างที่น้อง ๆ ค้นหาข้อมูล หรือ รับคำแนะนำจากพี่ ๆ One Education แล้ว น้อง ๆ ควรเลือกพิจารณารายวิชาของหลักสูตร รวมถึงลักษณะการเรียนการสอน การวัดผล ระยะเวลาที่เรียน ซึ่งโดยส่วนใหญ่สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย  

นอกจากนี้ น้อง ๆ ควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย เช่น แคมปัสมหาวิทยาลัย สิ่งอำนวยความสะดวกที่มหาวิทยาลัยมีให้นักศึกษา เช่น ห้องสมุด ห้องอ่านหนังสือ และ หอพัก เป็นต้น  

  1. Check the entry requirements 

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ น้อง ๆ จะต้องตรวจสอบเกณฑ์การรับเข้าของมหาวิทยาลัยก่อนทำการสมัคร บางหลักสูตรกำหนดให้ผู้สมัครมีพื้นฐานวิชาบางอย่างจากการเรียนปริญญาตรี หรือ บางหลักสูตร เช่น MBA กำหนดว่าผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์การทำงานก่อน หรือ บางหลักสูตรด้าน Art and Design กำหนดให้ผู้สมัครต้องส่ง Portfolio รวบรวมผลงานที่ผ่านมา เป็นต้น  

  1. Consider the financial cost 

แน่นอนว่าเรื่องเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกมหาวิทยาลัย แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดค่าเล่าเรียนแตกต่างกัน รวมถึงแต่ละเมืองก็มีค่าครองชีพสูงต่ำ แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นน้อง ๆ ควรกำหนดงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาโท 1 ปี มาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกหลักสูตรและมหาวิทยาลัยด้วย 

  1. Consider the location 

นอกจากการพิจารณาหลักสูตรที่เรียนแล้ว น้อง ๆ ควรพิจารณาเมืองที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ สภาพสังคม สภาพแวดล้อม อีกด้วย เพราะน้อง ๆ จะต้องใช้เวลา 1 ปี อยู่ที่เมืองหรือย่านนั้น น้อง ๆ ควรรู้ว่าเมืองนั้น มีการเดินทาง ที่พัก สภาพแวดล้อม เหมาะกับ Lifestyle ของเราหรือไม่ รวมถึงค่าครองชีพ การหางานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน เป็นต้น

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการสมัครเรียน

สำหรับเอกสารที่น้อง ๆ ต้องเตรียมเพื่อใช้สำหรับการสมัครเรียน มีดังนี้ 

1.ใบแสดงผลการเรียน (Transcript) และใบรับรองจบ (Degree Certificate)  / ปริญญาบัตร (เป็นภาษาอังกฤษ) 

สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเรียนปริญญาตรีปี 4 หรือ ปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัย สามารถใช้ผลการเรียนถึงเทอมแรกของปีสุดท้าย สมัครก่อนได้ โดยยื่นพร้อมกับใบรับรองการเป็นนิสิตหรือนักศึกษา (Student Status Letter) 

2. หลักฐานที่แสดงถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษ เช่น ผลสอบ IELTS (ถ้ามี) 

สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่ได้สอบวัดผลภาษาอังกฤษหรือยังไม่มียื่นให้มหาวิทยาลัย น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะเราสามารถส่งเอกสารข้ออื่นสมัครเข้าเรียนก่อนได้ ถ้ามหาวิทยาลัยตอบรับการเข้าเรียน ใบตอบรับการเข้าเรียนจะติดเงื่อนไขให้เราส่งผลภาษาอังกฤษตามไปภายใน Deadline ที่ระบุไว้ 

3. สำเนาหน้าพาสปอร์ต

ณ วันที่สมัครเรียนต้องไม่หมดอายุ และ ควรครอบคลุมระยะเวลาที่เรียน 

4. ผลคะแนน IELTS

ผลคะแนนสอบความรู้ภาษาอังกฤษ IELTS ที่ยังไม่หมดอายุ สามารถตรวจสอบผลคะแนน IELTS ที่ต้องใช้ในการยื่นสมัครเรียนหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่น้อง ๆ สนใจสมัครเรียนได้กับพี่เอม หรือ พี่ ๆ ทีมงาน One Education

5. จดหมายแนะนำ (Letters of Recommendation)

สำหรับน้อง ๆ จบใหม่ ควรมีจดหมายแนะนำจากอาจารย์มหาวิทยาลัยอย่างน้อย 2 ท่าน ส่วนน้อง ๆ ที่เรียนจบแล้วและมีประสบการณ์การทำงาน 2 ปีขึ้นไป สามารถใช้จดหมายแนะนำจากอาจารย์มหาวิทยาลัย 1 ท่าน และ หัวหน้างานที่ทำงานอีก 1 ท่านได้ 

6. ประวัติย่อ (Resume / CV)  

โดยประวัติย่อของนักเรียน ควรแสดงประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ข้อมูลประจำตัว และทักษะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่เราจะสมัครเรียน ไม่จำเป็นต้องใส่รูป หรือ ตกแต่งสี 

7. Statement of Purpose (SOP) หรือ เรียงความแสดงจุดม่งหมายการเรียน  

SOP ที่เราเรียกกันโดยย่อ ควรกล่าวถึงเกี่ยวกับประวัติของตัวเอง หลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่จบมา ประสบการณ์ 
ทำงาน (ถ้ามี) และกล่าวถึงหลักสูตรที่สนใจสมัครเรียน โดยแสดงเหตุผลที่ต้องการเรียนหลักสูตรนี้ รวมถึงจุดมุ่งหมายในอนาคตเมื่อจบหลักสูตรนี้  

8. เอกสารประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอร์สที่จะไปศึกษาต่อ (Supporting Documents)  

เช่น ในกรณีที่เป็นนักเรียนทุน อาจมีเอกสารรับรองทุนจากสถาบัน / องค์กร (Copy of Letter Confirming Sponsorship) หรือ Portfolio รวบรวมผลงาน สำหรับน้อง ๆ ที่สมัครเรียนหลักสูตร Art and Design 


🟢 สนใจเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้กับพี่เอม One Education บริการฟรีทุกขั้นตอนครบจบในที่เดียว แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับพี่เอมโดยตรงได้ที่ Line ID: 0631754581


คำถามที่พบได้บ่อย (FAQs)

  1. ควรสมัครเรียนเมื่อไหร่ 

ตอบ: สำหรับการสมัครเพื่อเข้าเรียนรอบ September Intake 2024 มหาวิทยาลัยในอังกฤษจะเปิดรับใบสมัคร 1 ปีล่วงหน้า โดยจะทยอยเปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2023 เป็นต้นไป บางหลักสูตรที่ได้รับความนิยมสูง อาจจะปิดรับสมัครช่วงเมษายน – มิถุนายน หรือ อาจจะก่อนหน้านั้นหากที่เต็ม การสมัครเข้าเรียนปริญญาโทของอังกฤษ เป็นระบบ First Come First Served หมายความว่า สมัครก่อนได้ผลก่อน หากสมัครเรียนช้า (ถึงแม้ว่าเราจะผ่านเกณฑ์การรับเข้าของมหาวิทยาลัยก็ตาม) แต่ที่เต็มแล้ว เราก็อาจจะทำให้เราไม่ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัย

  1. ต้องสอบ IELTS แบบไหน และ Academic IELTS กับ Academic for UKVI ต่างกันอย่างไร 

ตอบ: มหาวิทยาลัยของอังกฤษรองรับผลสอบ Academic IELTS ทั้ง 2 แบบคือ Regular Academic และ Academic for UKVI โดยทั้ง 2 แบบนี้มีรูปแบบการสอบเหมือนกันทุกประการ ไม่ได้ยากหรือง่ายแตกต่างกัน 

ความแตกต่าง คือ IELTS Academic for UKVI เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการอนุมัติและรับรองจากกองวีซ่าและการตรวจคนเข้าเมือง โดย UK Home Office หรือ รัฐบาลของสหราชอาณาจักร สำหรับน้อง ๆ ที่ตั้งใจไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ โดยใช้วีซ่าประเภท Tier 4 แต่มีผลภาษาอังกฤษไม่ผ่านเกณฑ์พิจารณาของมหาวิทยาลัย จะสามารถใช้ผลสอบนี้เข้าเรียน Pre-Sessional English Course ของมหาวิทยาลัย ก่อนการเรียนปริญญาโทได้ โดยที่ไม่ต้องสอบ IELTS ใหม่ แต่หากน้อง ๆ สอบ Regular Academic IELTS แล้วคะแนนไม่ถึงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด น้อง ๆ จะไม่สามารถนำผลคะแนนนี้ยื่นเรียน Pre-Sessional English Course ได้ ทำให้ต้องสอบ IELTS ใหม่ 

  1. พาสปอร์ตไม่ครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่เรียน ใช้สมัครเรียนไปก่อนได้หรือไม่ 

ตอบ: พาสปอร์ตที่ไม่หมดอายุ แม้ว่าจะไม่ครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่เรียน สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนก่อนได้ และน้อง ๆ ควรหาเวลาไปทำพาสปอร์ตใหม่ให้เร็วที่สุด และยื่นเพิ่มเติมให้มหาวิทยาลัยก่อนที่มหาวิทยาลัยจะออกเอกสารทำวีซ่า หรือ CAS  

  1. Statement of Purpose (SOP) ควรเขียนกี่หน้า  

ตอบ: ความยาวที่เหมาะสมสำหรับการเขียน SOP คือ 1 หน้ากระดาษ A4 หรือ ประมาณ 500-600 คำ น้อง ๆ ควรเขียนให้กระชับ ตรงไปตรงมา และครอบคลุมประเด็นสำคัญที่ทำให้มหาวิทยาลัยเข้าใจ และสนใจในตัวผู้สมัคร  

  1. ข้อดีของการสมัครเรียนผ่าน One Education คืออะไร มีค่าใช้จ่ายหรือไม่ 

ตอบ: การบริการทุกขั้นตอนของ One Education ไม่มีค่าใช้จ่ายเรียกเก็บจากนักเรียน  

บริการของ One Education เริ่มจากการแนะนำหลักสูตร มหาวิทยาลัย และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถาบัน การตรวจสอบเอกสารการสมัครเรียนของนักเรียน การยื่นใบสมัครเรียน ติดตามผลกับมหาวิทยาลัย การทำวีซ่านักเรียน การจองที่พัก และให้ข้อมูลเตรียมตัวนักเรียนก่อนการเดินทาง โดยผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลน้อง ๆ เป็นผู้มีประสบการณ์การเรียนต่อที่ต่างประเทศโดยตรง  

ข้อดีของการสมัครเรียนผ่าน One Education คือ น้อง ๆ จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือและแนะนำน้อง ๆ ทุกขั้นตอน ทำให้นักเรียนและผู้ปกครองมั่นใจได้ว่า การเรียนต่อที่ต่างประเทศของน้อง ๆ จะได้รับความสะดวกสบายและราบรื่น นอกจากนี้ One Education ยังจัดกิจกรรมและงานสัมมนาที่ให้ข้อมูลเรื่องการเรียนต่อของน้อง ๆ เป็นประจำ ทำให้น้อง ๆ มั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อมูลที่อัปเดตและถูกต้องจากมหาวิทยาลัย


📝 บทความโดย พี่เอม ที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรและประเทศออสเตรเลียของ One Education และ เป็นรุ่นพี่ศิษย์เก่าจาก SOAS University of London แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับพี่เอมโดยตรงได้ที่ Line ID: 0631754581


สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อที่อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรียนคอร์สภาษาอังกฤษระยะสั้น-ระยะยาว หรือเรียนต่อมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก สามารถติดต่อพี่ ๆ One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมา 30 ปี เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน ฟรี!!
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718

One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว

ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia

Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education

ONE EDUCATION

เราเป็นตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งจากมหาวิทยาลัยในอังกฤษและประเทศออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ รวมถึงยังให้คำปรึกษาและบริการครบทุกขั้นตอนกับนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติในประเทศไทย โดยไม่มีค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น

30 years experience Established since 1991
ประสบการณ์เชี่ยวชาญมากกว่า 30 ปี

ด้านการเรียนต่ออังกฤษและออสเตรเลีย

3 offices in Thailand
เปิดบริการ 3 สาขา

ในกรุงเทพ ประเทศไทย

Group of Eight Representative
ตัวแทนมหาวิทยาลัย Group of Eight

กลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำครบทั้ง 8 แห่งของออสเตรเลีย

Russell Group Representatives
ตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำในอังกฤษ

ตัวแทนมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง รวมถึงกลุ่ม Russell Group

Qualified Education Agent
ทีมงานที่ปรึกษาได้การรับรองคุณภาพ

ในการเป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อที่อังกฤษและออสเตรเลีย

Support 3,000+ students
ดูแลนักเรียนมากกว่า 3,000 คน

ทั้งนักเรียนไทยและนักเรียนต่างชาติในไทยได้ไปเรียนต่อตามเป้าหมาย

One Education ให้บริการเรียนต่อต่างประเทศระดับมืออาชีพ โดยการร่วมมือระหว่าง Hamilton International ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักร และ Insight Education Consulting ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อที่ออสเตรเลีย เรารวมกันเป็น "หนึ่ง" เพื่อให้คุณได้รับบริการที่ดีกว่าและตอบโจทย์การเรียนต่อต่างประเทศที่ครบวงจร