มีผล GED อยากเข้าเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ และ ออสเตรเลียได้หรือไม่?
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่ออสเตรเลีย | เคล็ดลับการเรียนต่อที่อังกฤษ | เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย | เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
- August 8, 2023
- P'Aim
เนื่องจาก GED เป็นอีกหนึ่งการสอบเทียบวุฒิที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ใช้แพร่หลายสำหรับการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยทั่วโลก รวมถึงประเทศอังกฤษและออสเตรเลีย ดังนั้นในบทความนี้ พี่เอม One Education จะมาคลายข้อสงสัย ตอบคำถามเกี่ยวกับการยื่นสมัครเรียนด้วยผล GED และ เกณฑ์ในการสมัครเข้าเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษและออสเตรเลียมีอะไรบ้างนั้น มาอ่านต่อกันเลย
GED คืออะไร
GED หรือชื่อเต็ม คือ General Educational Development เป็นการสอบเทียบวุฒิเทียบเท่าระดับมัธยมปลาย ตามหลักสูตรของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ทำให้นักเรียนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้เร็วขึ้น โดยน้อง ๆ สามารถเริ่มสอบ GED ได้ตั้งแต่ตอนอายุ 16 ปี มีเงื่อนไขกำหนดว่าต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครองก่อนถึงจะสามารถสอบ GED ได้ ยกเว้นน้อง ๆ ที่มีอายุครบ 18 ปีแล้วถึงจะสามารถสอบเองได้เลย
GED ต้องสอบอะไรบ้าง
การสอบ GED ประกอบไปด้วยการสอบ 4 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ (Mathematical Reasoning), ภาษาอังกฤษ (Reasoning Through Language Arts), สังคมศึกษา (Social Studies) และ วิทยาศาสตร์ (Science) โดยในแต่ละวิชา มีคำถามในหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันไป เช่น การเลือกข้อถูก (Multiple Choices) การเติมคำในช่องว่าง (Fill in the Blanks) เป็นต้น ที่สำคัญ GED มีการจัดสอบทุกสัปดาห์ จันทร์ ถึง เสาร์ น้อง ๆ สามารถกำหนดวันและเวลาการสอบได้เองตั้งแต่ 9.00 ถึง 16.00 น. สามารถสอบได้ทางเว็บไซต์ www.ged.com เมื่อสอบเรียบร้อยแล้ว น้อง ๆ จะได้รับผลสอบ และเอกสารประกาศนียบัตรการศึกษา (Diploma) และ ใบรายงานผลคะแนน (Transcript) ซึ่งน้อง ๆ สามารถส่งเอกสารดังกล่าวให้พี่ ๆ One Education ตรวจสอบกับเกณฑ์การรับเข้าของมหาวิทยาลัยเพิ่มเติมได้เลย
คะแนนเท่าไหร่ถึงเพียงพอต่อการเข้าปริญญาตรีที่อังกฤษ และ ออสเตรเลีย
ในแต่ละวิชาของ GED จะแบ่งคะแนนออกเป็น 4 ระดับ การสอบ GED ให้ผ่าน น้อง ๆ ต้องได้คะแนนอย่างน้อย 145 คะแนน ขึ้นไปในแต่ละวิชาถึงจะผ่านเกณฑ์ สำหรับเกณฑ์การรับเข้าของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในอังกฤษและออสเตรเลียกำหนดคะแนนอยู่ที่ 150-165 คะแนน เพื่อเข้าเรียนหลักสูตร Foundation น้อง ๆ สามารถปรึกษาพี่ ๆ One Education สำหรับเกณฑ์คะแนนที่แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดของ GED เพิ่มเติมได้
🟢 สนใจเรียนต่อมหาวิทยาลัยในออสเตรเลียและอังกฤษด้วยวุฒิ GED สอบถามข้อมูลและรับคำแนะนำฟรีได้กับพี่เอม One Education บริการฟรีทุกขั้นตอนครบจบในที่เดียว แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับพี่เอมโดยตรงได้ที่ Line ID: 0631754581
หลักสูตร Foundation คืออะไร
หลักสูตร Foundation เป็นการปูพื้นฐานความรู้ทางวิชาการ ความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษ และทักษะที่จำเป็นในการเรียนระดับปริญญาตรี ไม่ว่าจะเป็นการเขียนเชิงวิชาการ การคิดเชิงวิพากย์ (Critical Thinking) การค้นคว้าวิจัย และการพูดในที่สาธารณะ เป็นต้น ที่สำคัญ Foundation เป็นหลักสูตรที่รับรองการเข้าเรียนต่อปริญญาตรีกับมหาวิทยาลัยในสาขาที่เลือกเรียน เช่น Business, Art, Finance, Engineering, Science และ Computing เป็นต้น
หลักสูตร Foundation เหมาะกับนักเรียนต่างชาติ ช่วยให้น้อง ๆ ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น เพราะการเรียน Foundation จะไม่ใช่การเรียนแบบ ม.ปลาย แต่จะเป็นการเรียนการสอนที่ใช้ในมหาวิทยาลัย ดังนั้น นักศึกษาจะได้รู้จักช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น รู้จักแก้ปัญหา และเข้าสังคมกับผู้คนที่หลากหลายมากขึ้นด้วย และด้วยชั้นเรียนขนาดเล็กทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์การเรียนที่ดี ได้มีเวลาปรึกษากับอาจารย์ผู้สอนมากขึ้น รวมถึงยังได้ทำความรู้จักกับเพื่อนที่เรียนในหลักสูตรปริญญาเดียวกัน ช่วยนักศึกษาได้เรียนรู้และสร้างความคุ้นเคยกับการเรียนในระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงการใช้ชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยได้ดี
สมัครเรียนด้วยผล GED อย่างเดียวได้เลยหรือไม่
เนื่องจาก GED ไม่ใช่ระบบการเรียนและวุฒิมาตรฐานสำหรับการเข้าเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษและออสเตรเลีย ดังนั้นผลคะแนน GED เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี หลายสถาบันและมหาวิทยาลัยในอังกฤษและออสเตรเลียสามารถรับพิจารณาผลคะแนน GED ควบคู่กับวุฒิ ม.4 หรือ ม.5 และ IELTS เพื่อเข้าเรียนหลักสูตร Foundation ก่อนที่จะเริ่มเรียนปริญญาตรีปี 1 ที่มหาวิทยาลัย เพื่อช่วยในการปูพื้นฐานวิชาการและภาษาอังกฤษให้กับน้อง ๆ ก่อนที่จะเริ่มเรียนปริญญาตรี
ข้อดี คือ ช่วยให้น้อง ๆ ประหยัดเวลาเรียนไปได้ 1-2 ปี โดยทำให้น้อง ๆ มีพื้นฐานวิชาการในด้านที่น้อง ๆ จะเรียนต่อปริญญาตรีแน่นขึ้น รวมถึงน้อง ๆ จะมีพื้นฐานวิชาการที่แข็งพอเข้าเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยได้อย่างมั่นใจ เนื่องจากปริญญาตรีหลักสูตรทั่วไปของอังกฤษและออสเตรเลียใช้เวลาเรียน 3 ปี
เช่นกันหากน้อง ๆ ที่เรียนจบ ม.6 หรือ เทียบเท่า Grade 12 จากโรงเรียนที่ไทย มีผลการเรียนดี มีคะแนน GED และ ผล IELTS ถึงตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด น้อง ๆ สามารถยื่นสมัครเรียนเพื่อเข้าเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยในบางแห่งของออสเตรเลียได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเรียน Foundation ก็จะใช้ระยะเวลาในการเรียนจบปริญญาตรี 3 ปี เช่นกัน
สิ่งสำคัญในการพิจารณาสอบ GED เพี่อเข้าเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษ และ ออสเตรเลีย มีอะไรบ้าง
GED เป็นหนึ่งทางเลือกที่ทำให้นักเรียนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้เร็วขึ้นก็จริง แต่ก็มีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างที่ต้อง หากน้อง ๆ อยู่ในช่วงที่กำลังพิจารณาสอบ GED น้อง ๆ ควรคำนึง ดังนี้
- คะแนน GED ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
แม้ว่า GED จะอนุญาตให้น้อง ๆ สอบซ่อมได้ ในครั้งที่ 2 และ 3 ในแต่ละวิชา แต่การสอบซ่อมในครั้งที่ 4 จะต้องเว้นระยะห่างจากการสอบครั้งที่แล้วไม่ต่ำกว่า 60 วัน หรือ หากน้อง ๆ ที่อยากสอบใหม่ให้ได้คะแนนมากกว่าเดิม กรณีทีที่สอบผ่านแล้วแต่อยากได้คะแนนมากขึ้น ระบบจะไม่อนุญาตให้สมัครสอบใหม่ และน้อง ๆ จำเป็นต้องส่งอีเมลติดต่อศูนย์ GED เพื่อให้เหตุผล ดังนั้นก่อนการสอบ น้อง ๆ จำเป็นที่จะต้องวางแผนคะแนน และการสอบล่วงหน้า
- วุฒิการศึกษาปัจจุบัน
สำหรับอังกฤษและออสเตรเลียจะดูผลคะแนน GED ควบคู่กับวุฒิการศึกษาอย่างน้อย ม.4 หรือ ม.5 เพื่อเข้าเรียน Foundation จากนั้นถึงเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอีก 3 ปี ดังนั้นก่อนที่น้อง ๆ จะพิจารณาลาออกจากโรงเรียนเพื่อสอบเทียบ GED น้อง ๆ จะต้องพิจารณาวุฒิการศึกษาปัจจุบันที่ต้องยื่นคู่กับการพิจารณาผล GED ด้วย
- ระดับภาษาอังกฤษ
ผลคะแนน GED ไม่สามารถวัดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในระดับวิชาการได้ ดังนั้นน้อง ๆ จะต้องสมัครสอบ IELTS หรือ ผลสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการรองรับเพื่อยื่นในการพิจารณาระดับภาษาอังกฤษ
- อายุ
มหาวิทยาลัยในอังกฤษและออสเตรเลียกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับนักเรียนที่สามารถเข้าเรียน Foundation อยู่ที่ 16.5 – 17 ปี ดังนั้นน้อง ๆ จะต้องมีอายุดังกล่าวขึ้นไปก่อนวันเริ่มเรียน
- ตัวเลือกมหาวิทยาลัย
น้อง ๆ ควรตรวจสอบมหาวิทยาลัยและหลักสูตรที่รองรับคะแนน GED ก่อนยื่นสมัครเรียน ซึ่งพี่ ๆ One Education จะช่วยตรวจสอบเกณฑ์การรับเข้าและส่งลิสต์มหาวิทยาลัยให้น้อง ๆ พิจารณาก่อนสมัครเรียน
เอกสารในการสมัครเรียน มีอะไรบ้าง
น้อง ๆ สามารถเตรียมเอกสาร และส่งให้พี่ ๆ One Education ตรวจสอบก่อนการสมัคร ดังนี้
- สำเนาหน้าพาสปอร์ตที่ไม่หมดอายุ (และควรครอบคลุมระยะเวลาที่เรียน)
- เอกสารประกาศนียบัตรการศึกษา (Diploma) จากโรงเรียน เป็นภาษาอังกฤษ
- ใบรายงานผลคะแนน (Transcript) โดยมีเกรด ม.3, ม.4, ม.5 หรือ ม.6 หรือ เทียบเท่า Grade 10,11 หรือ 12 เป็นภาษาอังกฤษ
- เอกสารประกาศนียบัตรการศึกษา (Diploma) และ ใบรายงานผลคะแนน (Transcript) จาก GED
- ผลคะแนน IELTS (สำหรับเรียนต่ออังกฤษใช้ผลสอบ IELTS Academic UKVI และ สำหรับเรียนต่อออสเตรเลียใช้ผลสอบ IELTS Normal Academic ได้)
* น้อง ๆ สามารถยื่นผล IELTS ตามไปทีหลังได้ หลังจากส่งเอกสารอื่น ๆ ในลิสต์มาก่อนได้นะคะ
📝 บทความโดย พี่เอม ที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรและประเทศออสเตรเลียของ One Education และ เป็นรุ่นพี่ศิษย์เก่าจาก SOAS University of London แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับพี่เอมโดยตรงได้ที่ Line ID: 0631754581
สนใจเรียนต่อที่อออสเตรเลียหรืออังกฤษ สามารถติดต่อพี่ ๆ ทีมงาน One Education เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้เลย พี่ ๆ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้ง 2 ประเทศอย่างเป็นทางการ และ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศึกษาต่อ Australia & UK มามากกว่า 30 ปี ยินดีดูแลและบริการเรื่องเรียนครบทุกขั้นตอนฟรี
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
เช็กลิสต์! การเตรียมตัวสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษรอบ September Intake 2025 รวมลิสต์! ทุนเรียนต่อออสเตรเลียปี 2025 แนะนำ School of Education and Childhood ที่ UWE Bristol ประกาศสำคัญ! ออสเตรเลียจำกัดโควตารับนักเรียนต่างชาติในปี 2025 แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทสาขาแพทย์ผิวหนัง (Clinical Dermatology) ที่ประเทศอังกฤษหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา