แนะนำ 5 มหาวิทยาลัยดังเรียนแพทย์ ป.ตรี ที่ UK ด้วยหลักสูตร International Foundation Year
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่อังกฤษ | เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
- January 24, 2024
- One Education
อย่างที่ทราบกันดีว่าการเรียนปริญญาตรีทางด้านการแพทย์ที่ประเทศอังกฤษ น้อง ๆ จะต้องจบหลักสูตร A Level มาเท่านั้น แต่ในบทความนี้ พี่ปุ้ย One Education จะมาแนะนำ 5 มหาวิทยาลัยในอังกฤษที่น้อง ๆ สามารถยื่นสมัครโดยใช้ International Foundation Year แทน A Level เพื่อสมัครเรียนต่อแพทย์ระดับปริญญาตรีได้ จะมีมหาวิทยาลัยไหนบ้าง มาอ่านต่อกันเลย
1. Cardiff University
มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่อยู่ในกลุ่ม Russell Group และมีชื่อเสียงทางด้านการแพทย์มาอย่างยาวนานของประเทศอังกฤษ โดยปี 2024 มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ใน No.11 ของประเทศ
การเรียนการสอนหลักสูตร Foundation ของ Cardiff University จะทำการสอนโดย Study Group ซึ่งเป็น University Partnership ของมหาวิทยาลัย โดยหลักสูตร Foundation นี้จะใช้เวลาเรียน 1 ปี หลังจากเรียนจบ น้อง ๆ สามารถเลือกหลักสูตรที่จะเรียนต่อระดับปริญญาตรีได้ดังต่อไปนี้
- Biosciences
- Dentistry
- Medicine
- Optometry and Vision Sciences
- Pharmacy and Pharmaceutical Sciences
- Psychology
- Chemistry
เกณฑ์การรับเข้า
- จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0
- จบด้วยหลักสูตรวิทย์-คณิต และจะต้องเรียนวิชา Chemistry, Math และ Physics หรือ Biology
- IELTS UKVI Overall 6.0 (ทักษะการเขียน 6.0 และแต่ละแบนด์ต้องไม่ต่ำกว่า 5.5)
- อายุ 17 ปีขึ้นไป
ค่าเรียน International Foundation ระยะเวลา 1 ปี: £20,500 หรือ ประมาณ 922,500 บาท
หลักสูตร Foundation ของ Cardiff University จะเปิดเฉพาะเดือนกันยายนของทุกปี
2. University of Aberdeen
ตั้งอยู่ที่เมือง Aberdeen ในประเทศสก๊อตแลนด์ สามารถเดินทางไปเมือง Edinburgh ได้ประมาณ 2.5 ชั่วโมงโดยรถไฟ และ เดินทางไปกรุงลอนดอนได้ประมาณ 1.5 ชั่วโมงโดยเครื่องบิน มหาวิทยาลัย Aberdeen ถูกจัดอันดับให้อยู่ที่ Top 20 ในด้านการแพทย์ของสหราชอาณาจักร
หลักสูตร Foundation ของ University of Aberdeen จัดการเรียนการสอนโดย Study Group ซึ่งเป็น University Partnership เมื่อน้อง ๆ เรียนจบหลักสูตร Foundation แล้ว สามารถยื่นสมัครหลักสูตร MBChB Medicine ที่มหาวิทยาลัยนี้ได้เลย
เกณฑ์การรับเข้า
- จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.3
- จบด้วยหลักสูตรวิทย์-คณิต และ จะต้องเรียนวิชา Chemistry และ มีวิชาวิทย์อีก 2 ตัว คือ Biology, Maths หรือ Physics
- IELTS UKVI Overall 6.0 (แต่ละทักษะต้องไม่ต่ำกว่า 6.0)
- อายุ 17 ปีขึ้นไป
ค่าเรียน International Foundation ระยะเวลา 1 ปี: £24,750 หรือ ประมาณ 1,113,750 บาท
หลักสูตร Foundation ของ University of Aberdeen จะเปิดเฉพาะเดือนกันยายนของทุกปี
🟢 สนใจเรียนต่อแพทย์ระดับปริญญาตรีที่อังกฤษ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเรียนกับพี่ ๆ One Education ได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอนฟรี Add Line: @one-edu หรือ คลิกกรอกแบบฟอร์ม
3. Brighton and Sussex Medical School
Brighton and Sussex Medical School ตั้งอยู่ในเมือง Brighton ซึ่งห่างจากกรุงลอนดอนไปเพียง 50 นาทีโดยรถไฟ โรงเรียนแพทย์นี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยชั้นนำ 2 แห่ง คือ University of Brighton และ University of Sussex โดยสถาบันนี้ตั้งอยู่ในวิทยาเขตของ University of Sussex ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับใน Top 30 ในด้านการแพทย์ของประเทศอังกฤษ
หลักสูตร Foundation ของที่นี่ได้รับการเรียนการสอนโดย Study Group ซึ่งเป็น University Partnership เมื่อน้อง ๆ เรียนจบหลักสูตรนี้แล้ว สามารถยื่นสมัครหลักสูตร Bachelor of Medicine, Bachelor of Surgery ที่มหาวิทยาลัยนี้ได้
เกณฑ์การรับเข้า
- จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0
- จบด้วยหลักสูตรวิทย์-คณิต และ เรียนวิชาChemistry, Math รวมถึงวิชาวิทย์อีก 1 ตัว เช่น Biology หรือ Physics
- IELTS UKVI Overall 6.0 (แต่ละทักษะต้องไม่ต่ำกว่า 5.5)
- อายุ 17 ปีขึ้นไป
ค่าเรียน International Foundation ระยะเวลา 1 ปี: £19,400 หรือ ประมาณ 873,000 บาท
หลักสูตร Foundation ของ Brighton and Sussex Medical School จะเปิดเฉพาะเดือนกันยายนของทุกปี
4. University of Central Lancashire (UCLAN)
University of Central Lancashire ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1828 เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ตลอดระยะเวลาการเรียนของน้อง ๆ สามารถเข้าใช้บริการห้องปฏิบัติการทางคลินิกในมหาวิทยาลัยได้ เพื่อช่วยพัฒนาทักษะทางคลินิกในสภาพแวดล้อมการผ่าตัดในโรงพยาบาล และ GP ที่สมจริง ซึ่งน้อง ๆ จะได้รับประโยชน์และการเรียนรู้จากทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ รวมถึงการทดลองงานทางคลินิกตลอดหลักสูตร
หลักสูตรนี้จะเป็นการเรียนระยะเวลา 6 ปี รวมตั้งแต่เรียน Foundation จนจบปริญญาตรีทางด้านการแพทย์ โดยจะเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย Central Lancashire วิทยาเขต Westlakes เมือง Whitehaven ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ
เกณฑ์การรับเข้า
- จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0
- จบด้วยหลักสูตรวิทย์-คณิต และ เรียนวิชาChemistry, Math รวมถึงวิชาวิทย์อีก 1 ตัว เช่น Biology หรือ Physics
- IELTS UKVI Overall 7.0 (แต่ละทักษะต้องไม่ต่ำกว่า 7.0)
- อายุ 18 ปีขึ้นไป
ค่าเรียน International Foundation ระยะเวลา 1 ปี: £30,000 หรือ ประมาณ 1,350,000 บาท
หลักสูตรนี้เปิดเฉพาะเดือนกันยายนของทุกปี
5. University of Birmingham
เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับต้น ๆ ของประเทศในหลายสาขาวิชา โดยสาขาทางด้านการแพทย์ได้รับการจัดอันดับใน Top 20 ของประเทศ University of Birmingham ตั้งอยู่ในเมือง Birmingham ซึ่งห่างจากกรุงลอนดอนไปเพียง 1.20 ชั่วโมง
หลักสูตร International Foundation Year ของ University of Birmingham เป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาสำหรับน้อง ๆ นักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนต่อคณะแพทย์ โดยจะเรียนกับสถาบัน Kaplan International Pathways ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาเอกชนที่ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยนี้
เกณฑ์การรับเข้า
- จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.0
- จบด้วยหลักสูตรวิทย์-คณิต และได้เกรดไม่ต่ำกว่า 3.0 ในวิชา Biology และ Chemistry
- IELTS UKVI Overall 6.0 (แต่ละทักษะต้องไม่ต่ำกว่า 6.0)
- อายุ 17 ปีขึ้นไป
ค่าเรียน International Foundation ระยะเวลา 1 ปี: £23,460 หรือ ประมาณ 1,055,700 บาท
หลักสูตรนี้เปิดเฉพาะเดือนกันยายนของทุกปี
International Foundation in Medicine and Health Professions
นอกจากนี้ ยังมีอีกตัวเลือกนึง สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียนหมอหรือทันตแพทย์ที่มหาวิทยาลัยไหนดีในอังกฤษ พี่ปุ้ยขอแนะนำให้เรียนเป็น Foundation กลางที่ใช้คะแนนจบยื่นเข้าได้หลายมหาวิทยาลัยในประเทศ ซึ่งหลักสูตรนี้เรียกว่า International Foundation in Medicine and Health Professions ซึ่งจัดการเรียนการสอนโดย INTO University Partnerships และเรียน ที่ INTO London Campus
หลักสูตรนี้จะใช้ระยะเวลาเรียน 1 ปี และเปิดสอนในเดือนกันยายนของทุกปี โดยหลักสูตรจะเน้นด้านการแพทย์ วิศวกรรมชีวการแพทย์ วิทยาศาสตร์การแพทย์ เภสัชศาสตร์ ทันตแพทย์ และพยาบาล เป็นต้น เมื่อน้อง ๆ เรียนจบหลักสูตรนี้แล้ว สามารถที่จะยื่นสมัครได้ทั้งมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษและออสเตรเลีย (มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ 24 แห่ง และ มหาวิทยาลัยของประเทศออสเตรเลีย 5 แห่ง)
เกณฑ์การรับเข้า:
- จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.5 และจบด้วยหลักสูตรวิทย์-คณิต
- IELTS UKVI Overall 6.0 (ทักษะการเขียน 6.0 และทักษะอื่น ๆ ไม่ต่ำกว่า 5.5)
- อายุ 17 ปีขึ้นไป
ค่าเรียน International Foundation in Medicine and Health Profession: £24,995 หรือ ประมาณ 1,124,775 บาท (ไม่รวมค่าที่พัก)
อย่างไรก็ตาม การเรียนผ่านหลักสูตร International Foundation Year ของมหาวิทยาลัยข้างต้นนี้ (หรือ แม้แต่ A Level) ไม่ได้การันตีว่าน้อง ๆ จะได้เข้าหลักสูตรปริญญาตรีทางด้านการแพทย์ ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับการแข่งขันกับผู้สมัครรายอื่น ๆ ประกอบกับผล **UCAT / BMAT การสอบสัมภาษณ์ และ ประสบการณ์ทำงานหรือการฝึกงานด้วย
**BMAT – the BioMedical Admissions Test คือ การสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในสาขาการแพทย์ สัตวแพทย์ และทันตแพทย์ การสอบ BMAT ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ประกอบด้วย 3 ส่วนดังนี้
- ส่วนที่ 1 ความถนัดและทักษะ 60 นาที (ข้อสอบปรนัย 32 ข้อ)
- ส่วนที่ 2 ความรู้และการประยุกต์ด้านวิทยาศาสตร์ 30 นาที (ข้อสอบปรนัย 27 ข้อ)
- ส่วนที่ 3 สอบเขียนบรรยาย 30 นาที (ข้อสอบบรรยาย 1 ข้อ)
**UCAT – University Clinical Aptitude Test คือ เป็นการทดสอบทางคอมพิวเตอร์โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง เป็นการประเมินความสามารถที่ทางมหาวิทยาลัยระบุว่ามีความสำคัญต่อการฝึกปฏิบัติงานในสาขาการแพทย์ ทันตกรรม และ วิทยาศาสตร์การแพทย์
สนใจ เรียนต่อ International Foundation Year ที่สหราชอาณาจักร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รับคำแนะนำ และสมัครเรียนกับพี่ ๆ One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมา 30 ปี เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน ฟรี!!
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
บอกต่อ 6 หลักสูตรปริญญาโทน่าเรียนที่ Nottingham University Business School ข่าวดี! รัฐบาลออสเตรเลียเลื่อนประเทศไทยขึ้น Level 2 แนะนำ 5 หลักสูตรยอดฮิตของ Oxford Brookes University รวมลิสต์! ทุนเรียนต่ออังกฤษปี 2025 รวมลิสต์! ทุนเรียนต่อออสเตรเลียปี 2025หมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา