สายวิบวับ ห้ามพลาด! กับหลักสูตรปริญญาโท Jewellery ที่อังกฤษ
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่อังกฤษ | เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
- December 3, 2025
- P'Mind
หลักสูตรปริญญาโท 1 ปีในสาขา Jewellery นั้นกำลังมาแรงและเป็นที่นิยม เนื่องจากอุตสาหกรรมเครื่องประดับ ถือเป็นอาชีพและธุรกิจที่มีความเติบโตค่อนข้างเร็ว และสำคัญของหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ตามกระแสแฟชั่นที่มีผลต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เครื่องประดับถือเป็นสินค้าที่มีความหลากหลายที่ผสมผสานศิลปะ วัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และแฟชั่นเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดรายได้อันมหาศาลทั่วโลก เพราะเทรนด์แฟชั่นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด รวมถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีส่งผลให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสังคมปัจจุบันเน้นความเป็นทุนนิยมมากขึ้น เครื่องประดับจึงกกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในชีวิตประจำวัน ในบทความนี้ พี่มายด์ขอนำเสนอคอร์ส Jewellery จาก 3 มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรที่เปิดสอนสาขา Jewellery มาฝากน้อง ๆ ที่กำลังสนใจเรียนต่อด้านนี้ มาดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้างค่ะ
1. MA Jewellery and Related Products ที่ Birmingham City University
น้อง ๆ ที่เลือกเรียนหลักสูตรนี้จะได้เรียนใน School of Jewellery ของ Birmingham City University ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1890 ถือว่าเป็น School of Jewellery ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเบอร์มิ่งแฮมใน Jewellery Quarter ที่โด่งดัง ซึ่งน้อง ๆ จะได้ทั้งประสบการณ์ แรงบันดาลใจและ Connection ที่ดีต่อการทำงานในอนาคตและมีบรรยากาศ สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบที่เอื้อเฟื้อต่อการเรียน เช่น ห้อง Workshops, Library, Atrium Gallery และ โซนจัดแสดงผลงาน

คอร์ส MA Jewellery and Related Products ที่ Birmingham City University จะเน้นทางด้านความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ Jewellery โดยใช้อุปกรณ์เครื่องมือ เทคนิค และกระบวนการในการผลิตที่หลากหลายที่จะช่วยส่งเสริมให้น้อง ๆ เป็นนักออกแบบจิวเวอร์รี่ที่มีความสามารถหลากหลายแขนง เช่น Industrial Design, Fashion Design, Fine Art และ Sculpture โปรแกรมนี้ยังเน้นในเรื่องของการทำกิจกรรมผ่านการทำโปรเจ็คที่หลากหลายเพื่อเสริมทักษะทางด้านการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบ และการสร้างแบรนด์ที่บ่งบอกถึงความชำนาญและสไตล์ของเรา มีทริปและไปร่วมงานจัดแสดงมากมาย อย่างเช่นปีที่แล้วทางมหาวิทยาลัยจัดทริปไปดูงานแสดงจิวเวอร์รี่ ที่ Munich ในงาน International Contemporary Jewellery ที่จัดขึ้นทุกปีและมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงจาก Jewellers ทั่วโลกจาก Europe, America, South America และ Australia
ทาง Birmingham City University ยังมีพาร์ทเนอร์กับหลากหลายหน่วยงานและบริษัท ที่น้อง ๆ สามารถเข้าไปร่วมงานและมีเจ้าหน้าที่ที่คอยมาให้ความรู้ที่คณะอยู่บ่อย ๆ ได้แก่ Craftspace Birmingham, Birmingham Museum and Art Gallery, Jewellery Quarter Museum, British Crafts Council, The South Square Trust, Worshipful Company of Goldsmiths, Handwerkskammer (Munich, Germany), Crafthaus (USA), Art Jewelry Forum (USA) เป็นต้น
เกณฑ์ในการรับสมัคร
- เปิดเรียนรอบ September 2026
- เรียนจบในด้าน Art & Desing หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง หากเรียนจบไม่ตรงสายต้องมีประสบการณ์ทำงานในด้าน Creative
- มีผล IELTS 6.0 โดยแต่ละแบนด์ไม่น้อยกว่า 5.5
- ต้องมี Portfolio
ค่าเรียนปี 2026: £18,970
2. MA Jewellery ที่ University for the Creative Arts
University for the Creative Arts หรือ UCA เป็นสถาบัน Creative Education ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในทวีปยุโรป เป็น Creative Specialist University ที่ก่อตั้งเพื่อสอน Creative Arts โดยเฉพาะ มาร่วม 165 ปี เน้นความคิดสร้างสรรค์ ผสมผสานศาสตร์ความรู้ทางศิลป์หลายแขนงเข้าด้วยกันไว้เป็นหลัก สำหรับคอร์ส MA Jewellery นี้จะรวมทั้งเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมไปจนถึงแบบร่วมสมัย ที่เน้นการออกแบบและผลิตจิวเวอร์รี่ที่สวมใส่ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและตามกระแสแฟชั่น ส่วนใหญ่เป็นการทำโปรเจ็คแบบ Studio-based ที่มีคณะอาจารย์รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะคอยเป็นติวเตอร์ให้น้อง ๆ และคอร์สนี้จะสอนที่ Farnham Campus ที่ลอนดอน ห่างจาก Heathrow Airport เพียงครึ่งชั่วโมงโดยรถยนตร์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์มากมายใน Jewellery Studio เช่น โรงรีดเหล็ก ห้องเครื่องมือ เครื่องกลึง เครื่องบด เลื่อยสายพาน มีห้องเคมีเพื่อการแกะสลัก เครือบมันวาว ลงสีและลงยา มีโซนทำเครื่องเงินและขี้ผึ้งสำหรับเครื่องประดับโดยเฉพาะ
รวมถึงยังเป็น Crafts Study Centre ที่ Museum, Research Centre และ Crafts Gallery ภายในวิทยาเขต

นักเรียนที่เรียนจบจากคอรสนี้ได้ทำงานในสายงานที่หลากหลาย เช่น Artists, Designers, Jewellery Makers, Arts administrators, Gallery curators และทางภาควิชานี้ยังมีหลายบริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ด้วย ได้แก่ Worshipful Company of Ironmongers, The Goldsmiths’ Company, The Worshipful Company of Pewterers, Association of Contemporary Jewellery, Jewellers and Silversmiths Network, The New Ashgate Trust เผื่อน้อง ๆ คนไหนสนใจที่จะทำงานต่อหลังเรียนจบ การที่มหาวิทยาลัยมี Industry Link แบบนี้จะเป็นการช่วยให้น้อง ๆ ได้ทำความรู้จักกับหน่วยงานที่ทางมหาวิทยาลัยได้คัดเลือกแล้วและมีโอกาสสูงที่จะได้ร่วมงานและเรียนรู้จากหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียง
เกณฑ์ในการรับสมัคร
- เปิดเรียนรอบ September 2026
- เรียนจบหรือมีประสบการณ์ทำงานในด้านที่เกี่ยวข้อง
- มีผล IELTS 6.0 โดยแต่ละแบนด์ไม่น้อยกว่า 5.5
- ต้องมี Portfolio
ค่าเรียนปี 2026: £18,540
3. MA Design (Jewellery and Metalwork) ที่ Sheffield Hallam University
Sheffield Hallam University ถือเป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองเชฟฟิลด์ เพราะมีนักเรียนมากกว่า 31,000 คน ต่อปี จาก 120 ประเทศทั่วโลก และมีคอร์สเรียนให้เลือกกว่า 700 คอร์สตั้งแต่ หลักสูตรปรับพื้นฐานระดับปริญญาตรี และ โท จนไปถึง Research Degree ทางมหาวิทยาลัยเน้นการเรียนในเชิงปฏบัติอย่างเช่น Live projects และ Field trips เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนคุ้นเคยกับการทำงานในโลกแห่งความจริงโดยมีพาร์ทเนอร์กับบริษัทชั้นนำมากมาย
สำหรับคอร์ส MA Design (Jewellery and Metalwork) มีวิชาบังคับได้แก่ Critical Making – Jewellery and Metal Work, Material Research, Theory and Practice และ MA Jewellery And Metalwork Project
การเรียนการสอนเน้นการทำโปรเจคแบบปฎิบัติ โดยมีอุปกรณ์และสตูดิโอสำหรับคอร์สนี้โดยเฉพาะ เช่น 3D Printing สำหรับ Rapid Prototyping อุปกรณ์เครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย เครื่องตัดเลเซอร์ ที่เหมาะกับความชำนาญในการออกแบบที่หลากหลาย ทั้งงาน Metalwork, Fashion, Ceramics, Wood และ Plastic นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยยังมีโซนให้นักเรียนได้เข้าไปฝึกฝนทักษะต่าง ๆ เช่น Photography Studio, Creative Media Centre, Gallery and Exhibition Spaces และ Design and Media Library

จากผลสำรวจนักเรียนที่จบไปส่วนใหญ่ได้งานที่ตรงกับความเชี่ยวชาญและชำนาญในความชอบของตัวเอง เช่น Design Management, Retail / Marketing / Manufacturing Company Manager และ High-end Jewellery Brand Designer เป็นต้น
เกณฑ์ในการรับสมัคร
- เปิดเรียนรอบ September 2026
- เรียนจบหรือมีประสบการณ์ทำงานในด้านที่เกี่ยวข้อง
- มีผล IELTS 6.0 โดยแต่ละแบนด์ไม่น้อยกว่า 5.5
- ต้องมี Portfolio
ค่าเรียนปี 2026: £18,600
สุดท้ายนี้ สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่สนใจอยากเรียนคอร์สเฉพาะทางแบบนี้ หรือสนใจอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมของคอร์สอื่นๆ อย่าได้รอช้า ทางพี่ ๆ One Education ยินดีที่จะช่วยแนะนำและให้คำปรึกษาในการเลือกคอร์สวิชา มหาวิทยาลัย รวมถึงเมืองที่สนใจ และขั้นตอนในการสมัครมหาวิทยาลัยที่น้อง ๆ ถูกใจ แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ เพราะทาง One Education เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยในสหราชาอาณาจักรอย่างเป็นทางการ หรือหากน้อง ๆ สนใจเรียนต่อที่ออสเตรเลียก็สามารถสอบถามเข้ามากันได้เลยนะคะ พี่ ๆ Counsellor ของ One Education ทุกคนพร้อมและยินดีให้คำปรึกษาน้อง ๆ ทุกคนค่ะ
📝 บทความโดย พี่มายด์ ที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรและประเทศออสเตรเลียของ One Education แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับพี่มายด์โดยตรงได้ที่ Line ID: 0927295660
สนใจเรียนต่อ Jewellry ที่ประเทศอังกฤษ สมัครเรียนได้กับทีมงาน One Education
One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมามากกว่า 30 ปี และ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เรายินดีให้บริการทุกขั้นตอนฟรี!!
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
TikTok: oneeducationthailand
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
ยกเลิก BRP ในอังกฤษ เปลี่ยนเป็น eVisa ระบบตรวจคนเข้าเมืองและวีซ่าแบบดิจิทัล 100% เคล็ดลับพิชิตงานเรียนต่อ Australia & UK University Fair 17 มกราคม 2569! มาแล้วต้องได้อะไรกลับไปมากที่สุด แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทสาขาแพทย์ผิวหนัง (Clinical Dermatology) ที่ประเทศอังกฤษ ส่อง 6 อาชีพสายวิทย์ ที่กำลังเป็นที่ยอดฮิตของตลาด แนะนำ La Trobe University Sydney Campus มหาวิทยาลัยใจกลางซิดนีย์ที่เด็กสาย Business / IT ต้องชอบหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา

