เช็กลิสต์! สิ่งที่ควรทำ ณ วันที่ก้าวเท้าเข้าประเทศอังกฤษ
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่อังกฤษ | เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
- September 2, 2024
- One Education
เตรียมตัวให้ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! การไปเรียนต่อเมืองนอกนั้นนอกจากความกังวลในเรื่องการเตรียมตัวสมัครเรียนแล้ว พอน้อง ๆ ได้ใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยที่เราตั้งใจไว้ ความกังวลถัดมาที่พี่จอยเชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนกังวลคือ เมื่อเราก้าวเท้าเข้าประเทศอังกฤษแล้วขั้นตอนต่อไปเราควรทำอะไรต่อ ในบทความนี้พี่จอย One Education จะมาแนะนำว่าเมื่อเราไปถึงประเทศอังกฤษ เราควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ต้องทำอะไรหรือไปที่ไหนก่อน พี่จอยจะมาลำดับความสำคัญให้กับน้อง ๆ กันค่ะ
อย่างแรกพอน้อง ๆ ลงเครื่องบินและก้าวเท้าเข้าประเทศอังกฤษ เราจะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. กันก่อน และเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา สิ่งที่น้อง ๆ ควรต้องเตรียมระหว่างรอคิวพบกับเจ้าหน้าที่ ตม. คือ เอกสารเข้าประเทศต่าง ๆ นอกจาก Passport แล้ว จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สิ่งที่เจ้าหน้าที่อาจขอเรียกดูคือ IOM Certificate หรือใบตรวจปอด และ CAS หรือ Offer Letter เราแค่เตรียมถือไว้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะขอเรียกดู แนะนำว่ายิ้มแย้มเข้าไว้นะคะ เจ้าหน้าที่ ตม. อาจจะมีถามคำถามเราเพื่อเช็กว่าเราไม่ได้มาหลบหนีหรืออะไร น้อง ๆ สามารถตอบตามความจริงได้เลย เช่น อาจจะมีการถามว่ามาทำอะไรที่อังกฤษ เรียนที่ไหน มากับใคร และพักที่ไหน จะเป็นคำถามทั่วไปค่ะ การเดินทางเข้าประเทศอังกฤษในครั้งนี้ เราตั้งใจมาเรียน และไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะคะ ยิ่งเรากังวลเท่าไหร่มันจะกลายเป็นมีพิรุธทันที จากที่ไม่มีอะไรจะกลายเป็นมีอะไร ดังนั้นน้อง ๆ สามารถตอบตามความจริงได้เลยค่ะ
หลังจากผ่าน ตม. เรียบร้อยแล้วน้อง ๆ ก็เดินทางเข้าที่พัก อันนี้ก็แล้วแต่น้อง ๆ ว่าจะเดินทางไปที่พักอย่างไร บางคนอาจจะจองบริการ Airport Pick Up กับทางมหาวิทยาลัย หรือบางคนอาจจะจองแท็กซี่ไว้ล่วงหน้า หรือเป็นการนั่งรถไฟต่อไปเมืองอื่น อันนี้แนะนำว่าลองเช็กการเดินทางก่อนบินมาด้วยก็ดีนะคะ เผื่ออันไหนจองล่วงหน้าได้เราอาจได้ตั๋วในราคาที่ถูกกว่ามาซื้อหน้างานค่ะ
หลังจากที่น้อง ๆ เข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว อาจจะพักเหนื่อยกันซักหน่อย วันถัดมาพี่จอยแนะนำให้เราไปรับ BRP Card ตามที่อยู่ที่ระบุอยู่ในใบรับ BRP Card และเตรียมเอกสารไปรับด้วยนะคะ หลังจากนั้นเราควรไปรายงานตัวกับมหาวิทยาลัยของเราที่ International Office สักหน่อยว่าเรามาถึงแล้ว อาจจะขอทำ Student ID ไปเลยได้ยิ่งดีค่ะ ถัดมาสิ่งที่จะแนะนำให้รีบทำคือเปิดบัญชีธนาคารค่ะ เพราะน้องบางคนอาจจะไม่ได้พก Travel Card ไป หรือบางที่ไม่สามารถใช้ Travel Card ได้ พี่จอยเลยอยากแนะนำให้เปิดบัญชีธนาคารที่อังกฤษไว้เลยค่ะ เพราะเราจะได้มีบัตรเดบิตไว้ใช้จ่ายได้ หรือจะให้มหาวิทยาลัยตัดค่าเทอมจากบัญชีธนาคารที่อังกฤษได้เลยค่ะ ไว้ Blog หน้าพี่จอยจะมาแนะนำวิธีการเปิดบัญชีธนาคารให้กับน้อง ๆ เป็นขั้นตอนแบบละเอียดเลยนะคะว่าต้องทำอย่างไรบ้างนะคะ
หลังจากนั้นถ้ามีเวลาพี่จอยแนะนำให้เราลงทะเบียน GP หรือ General Practitioner กับโรงพยาบาลในเครือ NHS ไว้ได้เลย โดย NHS คือ ระบบดูแลสุขภาพแห่งชาติ ที่ให้บริการทางการแพทย์ฟรีในเวลาที่จำเป็นในขั้นตอนการขอวีซ่าสำหรับนักเรียนจึงต้องชำระเงินค่าบริการด้านสุขภาพ (Healthcare Surcharge) ด้วย โดยอัตราค่าบริการสุขภาพจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาเรียนและอายุของวีซ่าที่ได้รับ เพราะน้อง ๆ ที่ไปเรียนหลักสูตรมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปจะมีประกัน IHS (Immigration Health Surcharge) ที่เราได้ชำระไว้ตอนทำวีซ่าแล้ว ดังนั้นน้อง ๆ จะมีสิทธิ์เข้ารับการรักษากับโรงพยาบาลในเครือ NHS ฟรีได้เลย สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.nhs.uk/register
ถ้าน้อง ๆ จัดการเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้เผื่อเวลาไปล่วงหน้าซัก 2-3 วันก่อนเปิดเรียนนะคะ เราจะได้มีเวลาสำรวจเมืองที่เราไปอยู่ ศึกษาเส้นทางการเดินไปมหาวิทยาลัย พี่จอยแนะนำเลยว่าต้องลองเดินทางและจับเวลาดู เพราะวันแรกของการเปิดเรียนจะได้ไม่ไปสายกันนะคะ และที่สำคัญเดินสำรวจแหล่งชอปปิ้งและแหล่งดำรงชีพของเราว่ามีซูเปอร์มาร์เก็ตอะไรบ้าง หรือมีร้านอาหารตรงไหน เราจะได้คุ้นชินกับตรงนี้ก่อน พอเปิดเรียนจะได้ไม่รู้สึก Panic หรือ Culture Shock จนเกินไปค่ะ
ส่วนถ้าใครแพลนจะทำงาน Part-time ก็อย่าลืมสมัคร National Insurance Number (NINO) กันก่อนนะคะ เพราะนายจ้างส่วนใหญ่จะขอเลขนี้ตอนเราไปสมัครงาน การสมัครก็ไม่ยากค่ะ น้อง ๆ สามารถโทรเข้าไปนัดหมายที่เบอร์ 08001412075 แล้วเค้าก็จะให้เราเตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่น Passport, BRP Card, สัญญาที่พัก เค้าจะแจ้งเราอีกทีว่าขออะไรบ้างค่ะ ระยะเวลาในการรอ NI Number อาจจะประมาณ 4-6 สัปดาห์ค่ะ
พี่จอยอยากจะแนะนำน้อง ๆ เลยว่าถ้าเรามีปัญหาอะไรทั้งเกี่ยวกับการ Enrolment ลงทะเบียนเรียนหรือเป็นเรื่องการชำระค่าเทอม น้อง ๆ สามารถเดินเข้าไปที่ International Office ของแต่ละมหาวิทยาลัยที่น้อง ๆ เรียนได้เลย เพราะทางมหาวิทยาลัยจะย้ำเสมอว่าเค้ามีทีมซัพพอร์ตนักเรียนต่างชาติอย่างพวกเรา และทีมคอยช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว เนื่องจากน้อง ๆ อยู่ตรงนั้นแล้ว ดังนั้นการแก้ไขปัญหาก็จะแก้ได้เร็วขึ้น แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ยังไงพี่ ๆ One Education ก็ยังคอยช่วยน้อง ๆ อยู่ค่ะ ถ้าติดปัญหาอะไรที่ไม่สามารถคุยกับทางมหาวิทยาลัยเองได้ ทางพี่ ๆ ไม่ทิ้งน้อง ๆ แน่นอนค่า
สนใจเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รับคำแนะนำ และสมัครเรียนกับพี่ ๆ One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมามากกว่า 30 ปี เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน ฟรี!!
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
เช็กลิสต์! การเตรียมตัวสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษรอบ September Intake 2025 รวมลิสต์! ทุนเรียนต่อออสเตรเลียปี 2025 แนะนำ School of Education and Childhood ที่ UWE Bristol ประกาศสำคัญ! ออสเตรเลียจำกัดโควตารับนักเรียนต่างชาติในปี 2025 แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทสาขาแพทย์ผิวหนัง (Clinical Dermatology) ที่ประเทศอังกฤษหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา