Study Life Balance เมื่อเรียนต่อที่ต่างประเทศ
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่ออสเตรเลีย | เคล็ดลับการเรียนต่อที่อังกฤษ | เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย | เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
- February 27, 2024
- Jonathan Tinnacher
ในแต่ละปี มีนักศึกษาไทยจำนวนไม่น้อยที่ตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ซึ่งหลายคนอาจจะมีทั้งความตื่นเต้นและความหวาดหวั่นในใจว่าบินไปเรียนต่อถึงต่างประเทศแล้วจะเจออะไรบ้าง แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีเหตุผลในการไปเรียนต่อแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เราเห็นตรงกันก็คือ การไปเรียนต่อต่างประเทศถือเป็นโอกาสสำคัญของชีวิตที่ไม่ได้ได้มาง่าย ๆ บางคนถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง หลาย ๆ คนที่ไปเรียนต่อถึงต้องมุ่งมั่นเอาใบปริญญากลับมาให้ได้เพื่อไม่ให้โอกาสตรงนี้เสียเปล่า ต้องไปมหาวิทยาลัย ต้องเข้าคลาสให้ตรงเวลา ต้องทำโปรเจกต์หนัก ๆ ต้องอยู่แต่ที่ห้องเพื่อเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบ
แต่เดี๋ยวก่อนนะ! วิธีนี้อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์การไปเรียนต่อถึงต่างประเทศสักเท่าไหร่
เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากให้ประสบการณ์การเรียนต่อของตัวเอง หรือการข้ามน้ำข้ามทะเลไปอีกครึ่งซีกโลกถูกจำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนและห้องสมุดเท่านั้นใช่มั้ยครับ
ถ้าคิดแบบนี้แสดงว่ามาถูกทางแล้วครับ เพราะการไปเรียนต่อต่างประเทศถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ศึกษาความแตกต่างระหว่างการใช้ชีวิตของผู้คนในแต่ละสถานที่ และบรรยากาศที่ไม่เหมือนในประเทศไทย รวมถึงได้ขยายมุมมองของตัวเองให้กว้างขึ้น ทั้งในด้านการพัฒนาความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ว่าจ้างในอนาคต หรือสร้างคอนเนคชั่นและขยายเครือข่ายที่อาจจะกลายมาเป็นผู้ช่วยเหลือในการทำงานหรือสร้างธุรกิจของตัวเองได้ด้วย
และทั้งหมดที่กล่าวมานี้ต้องอาศัยการเข้าสังคม ออกจาก Comfort Zone เพื่อพบเจอผู้คนใหม่ ๆ และทำกิจกรรมที่นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน ถ้าเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้อง ระวังจะพลาดโอกาสดี ๆ ในการเจอโอกาสพิเศษ ๆ แบบนี้นะครับ 🙂
ทีนี้เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า หลายคนคงสงสัยใช่ไหมว่าแล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะสามารถทั้งเรียนทั้งเล่น หรือออกไปหาประสบการณ์ได้โดยไม่เสียการเรียน? อ่านต่อตรงนี้เลยครับ
ดึงความมั่นใจ แล้วออกไปผจญภัยข้างนอกกัน!
คงไม่อยากจินตนาการกันเลยใช่มั้ยครับว่าเมื่อไปถึงต่างประเทศแล้วเราจะถูกรายล้อมด้วยสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทุกอย่างต้องปรับตัวใหม่หมด แต่กลับไม่มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเลยสักคนนี่มันจะยากลำบากขนาดไหน ผมมีทิปส์ง่าย ๆ มาฝากทุกคนครับ
อย่าลืมว่านักศึกษาต่างชาติหลาย ๆ คนก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน
ไม่ว่าแต่ละคนจะบินมาไกลแค่ไหนหรืออาจจะย้ายจากต่างเมืองมาเริ่มต้นใหม่ พอเริ่มต้นปีการศึกษาใหม่ เข้ามหาวิทยาลัยใหม่ ทุกอย่างก็ใหม่หมด เชื่อเถอะว่าทุกคนมีความรู้สึกประหม่าไม่ต่างกัน ดังนั้น เวลาเจอเพื่อนใหม่ ขอให้ยิ้มเข้าไว้แล้ว say ‘Hi’ เพื่อเป็นการทำลายกำแพงด่านแรกครับ
ชมรมนักศึกษาคือสถานที่หาเพื่อนรู้ใจได้ไวที่สุด
ถ้าเราไม่รู้จักเพื่อน ๆ คนไทยที่กำลังจะไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเดียวกันมาก่อนเลย การเข้าร่วมชมรมหรือสมาคมนักเรียนไทยคือคำตอบ หรือถ้าเราอยากมีเพื่อนต่างชาติ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มักจะมี International Students’ Society รองรับอยู่แล้ว การทำกิจกรรมภายในรั้วมหาวิทยาลัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเจอเพื่อนต่างชาติเช่นเดียวกันครับ หรือถ้าใครมีความสนใจด้านไหนเป็นพิเศษ มีงานอดิเรกที่ชอบ เราก็สามารถหาเพื่อนจากคลับหรือชมรมของมหาวิทยาลัย เช่น กีฬา เกม การแสดง กิจกรรมจิตอาสา ไปจนถึงชมรมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่รวบรวมคนที่มีไอเดียทางธุรกิจและอยากปั้นธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว ทุกมหาวิทยาลัยจะมีการจัด Societies’ Fair ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ของการเปิดภาคเรียน เราสามารถใช้เวลาช่วงนี้ในการค้นหาชมรมที่สนใจหรือเหมาะกับตัวเองได้อย่างอิสระเลยครับ
นึกอะไรไม่ออก ลองเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา
อีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์ที่จะช่วยให้เราได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ก็คือการเข้าร่วมกิจกรรมอาสา ซึ่งไม่ว่า Students’ Union หรือ Careers Service ภายในมหาวิทยาลัย จะมีรายชื่อกิจกรรมที่นักศึกษาสามารถนำทักษะส่วนตัวมาใช้ช่วยเหลือคนอื่นได้ ไม่ว่าเป็นการสอนหนังสือเด็ก การช่วยเหลือคนไร้บ้าน คนพิการ หรือผู้ป่วย หรือการเข้าร่วมโปรเจกต์รักษ์โลกเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม
นอกจากการใช้เวลาว่างของตัวเองให้เป็นประโยชน์แล้ว เรายังได้พัฒนาทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น สร้างความเห็นอกเห็นใจ และสร้างโปรไฟล์ที่น่าสนใจสำหรับการสมัครงานในอนาคตได้ด้วย แต่ต้องอย่าลืมดูประเภทวีซ่าของตัวเองให้ดีว่าเราสามารถเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาประเภทไหนได้บ้างนะครับ ถ้าไม่ชัวร์เราสามารถขอคำปรึกษาจาก Student Support ของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ ได้เลยครับ
ถึงเวลา Get Balance!
เมื่อทุกคนเริ่มภาคเรียนไปได้สักพัก เริ่มเข้าร่วมชมรม เริ่มมีกิจกรรมหลากหลายมากขึ้น บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่ามันมากเกินไป เริ่มจัดการเวลาไม่ได้ เริ่มกังวลว่าจะกระทบกับการเรียนหรือเปล่า งั้นเรามาเริ่มจัดความสมดุลระหว่างการเรียนและการใช้ชีวิตกันดีกว่าครับ
คิดง่าย ๆ แบบนี้ครับว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยก็เหมือนการทำงานเต็มเวลาที่ต้องใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยจะแบ่งออกเป็นการเรียนในห้องเรียน ที่ปกติทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 12 – 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งบางรายวิชาอาจจะต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้า เช่น การอ่านเปเปอร์ก่อนเข้าคลาสเพื่อเตรียมคำถามสำหรับการอภิปราย การอ่านสไลด์เพื่อทำความเข้าใจกับบทเรียนไปก่อน หรือการเขียนเรียงความทางวิชาการ ซึ่งรวมกันอาจจะมากหรือน้อยกว่า 40 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับหลักสูตร ภาคการศึกษา หรือชั้นปี แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามั่นใจว่าตัวเองเต็มที่กับ 40 ชั่วโมงนี้แล้ว ผมเชื่อว่าผลการเรียนที่ดีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนครับ และนั่นหมายความว่าเราสามารถใช้เวลาที่เหลือไปกับการพักผ่อน ออกไปท่องเที่ยว ทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ เข้าร่วมชมรม หรือหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเองได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยครับ
สรุปง่าย ๆ ว่าการไปเรียนต่อต่างประเทศไม่ว่าจะที่สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย หรือประเทศอื่น ๆ ถือเป็นการเรียนรู้ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน เราสามารถหาโอกาสในการพัฒนาทักษะ ขยายคอนเนคชั่น หรือเรียนรู้วัฒนธรรมอื่น ๆ ได้จากสิ่งแวดล้อมรอบตัว เพียงแค่มีความมั่นใจ ออกไปพบปะผู้คน หรือลองทำอะไรใหม่ ๆ
ยิ่งสำหรับคนที่กำลังจะต่อปริญญาโทและมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน การไปเรียนต่อต่างประเทศก็เหมือนการเปลี่ยนจากการทำงานในออฟฟิศเป็นการทำงานในฐานะนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องใช้เวลาส่วนหนึ่งของวันไปกับการเรียน การเตรียมความพร้อม การสอบ การทำโปรเจกต์ และใช้เวลาอีกส่วนหนึ่งกับการหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง เท่านี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วครับ ขอให้ทุกคนโชคดีกับการเรียนต่อต่างประเทศนะครับ ✈️
📝 บทความเขียนโดยคุณ Jonathan Tinnacher ผู้เชี่ยวชาญด้าน Recruitment & Admissions ของมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรมามากกว่า 25 ปี ติดตามผลงานเขียนและพอดแคสต์ได้ที่ www.betterunichoices.com
📝 บทความแปลโดยทีมงาน One Education
สนใจเรียนต่อที่ Australia หรือ UK สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รับคำแนะนำ และสมัครเรียนกับพี่ ๆ One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อออสเตรเลียสหราชอาณาจักรมา 30 ปี เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน ฟรี!!
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
รวมลิสต์! ทุนเรียนต่อออสเตรเลียปี 2025 แนะนำ School of Education and Childhood ที่ UWE Bristol ประกาศสำคัญ! ออสเตรเลียจำกัดโควตารับนักเรียนต่างชาติในปี 2025 แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทสาขาแพทย์ผิวหนัง (Clinical Dermatology) ที่ประเทศอังกฤษ เรียนพร้อมฝึกงานที่ออสเตรเลียกับ Academia Internationalหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา