เรียนปริญญาตรีที่ University of Melbourne มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของออสเตรเลีย
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่ออสเตรเลีย | เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
- October 29, 2021
- One Education
สวัสดีค่ะ ดิฉัน Claire Bingley เป็น Regional Manager ของ University of Melbourne ที่ดูแลนักเรียนในประเทศไทยนะคะ การสัมมนาครั้งนี้เราจะได้ทราบข้อมูลมหาวิทยาลัยโดยรวมและการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่เมลเบิร์นกันค่ะ
ทำความรู้จักมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นกันก่อน
มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นก่อตั้งเมื่อปี 1893 ปัจจุบัน (ปี 2563) มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นได้รับการจัดอันดับให้เป็น “อันดับ 1 ในออสเตรเลีย” และ “อันดับ 32 ของโลก” เราภูมิใจมากกับการจัดอันดับในระดับประเทศและระดับนานาชาติ เมลเบิร์นมีชุมชนนักเรียนต่างชาติที่ค่อนข้างใหญ่ ปัจจุบันเรามีนักศึกษาประมาณ 65,000 คนที่กำลังศึกษาอยู่ที่วิทยาเขต Parkville นอกจากนี้ยังมีบุคลากรทางวิชาการและวิชาชีพประมาณ 10,000 คนเช่นกัน ดังนั้นจึงเมลเบิร์นจึงเป็นชุมชนที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวค่ะ
มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ดังนั้นมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นจึงสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเมืองเมลเบิร์นเป็นอย่างไร ผู้คนที่อาศัยในเมลเบิร์นประมาณ 50% เป็นคนต่างชาติ และประมาณ 42% ของนักเรียนเมลเบิร์นเป็นนักเรียนต่างชาติที่มาจากกว่า 130 ประเทศทั่วโลกค่ะ ที่นี่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสังคม ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียน กิจกรรมของมหาวิทยาลัย ชมรมและคลับต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ของผู้คน เทศกาล และกิจกรรมทางวัฒนธรรม การมาเรียนที่เมลเบิร์นทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์และสัมผัสความเป็นนานาชาติอย่างแท้จริงค่ะ
การจัดอันดับของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่สำคัญที่สุดและฉันมีความภูมิใจกับมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมาก คือ “การจัดอันดับความสามารถในการจ้างงานของบัณฑิต (Graduate Employability Ranking) ที่ได้อันดับที่ 8 ของโลก” โดยการจัดอันดับของ QS Graduate Employability 2021 เหตุผลส่วนใหญ่ของนักเรียนที่ตัดสินใจเรียนต่อคือการได้รับและพัฒนาทักษะและความรู้ที่จะช่วยให้นักศึกษาก้าวไปเข้าสู่อาชีพที่ใช่และได้รับเงินเดือนที่เหมาะสม
การจัดอันดับ Graduate Employability แสดงให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมีการเตรียมตัวนักศึกษาของเราให้พร้อมกับชีวิตและความสำเร็จทางด้านอาชีพหลังเรียนจบ นั่นคือ นักศึกษาไม่เพียงแต่จะได้ความรู้และทักษะที่สำคัญสำหรับการทำงาน แต่ยังได้ connection กับพันธมิตรในอุตสาหกรรมที่นักศึกษามองหาด้วย
นักศึกษาที่ประสบความสำเร็จของเราจะมีให้ความสำคัญกับ study-life balance เช่น การมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของมหาวิทยาลัย การเป็นอาสาสมัคร การพบปะกับเพื่อนร่วมสถาบันและศิษย์เก่า การฝึกงาน และการทำงานพิเศษเพื่อประสบการณ์เพิ่มเติม นอกจากนี้ นักเรียนของเราหลายคนได้รับการจ้างงานจากบริษัทชั้นนำก่อนที่พวกเขาจะเรียนจบ ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เราภูมิใจมาก
โครงสร้างหลักสูตรของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
โครงสร้างหลักสูตรของเรามีความเป็นสากลมากและมีความสอดคล้องกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก เราเปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก
หลักสูตรระดับปริญญาตรี
หลักสูตรระดับปริญญาตรีจะใช้ระยะเวลาเรียนทั้งหมด 3 ปี หลักสูตรปริญญาตรีของเมลเบิร์นอาจจะดูไม่ได้มีมากนัก แต่เรามีสาขาวิชาที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษา ตัวอย่าง นักศึกษาต้องการเรียนด้านจิตวิทยา ซึ่งวิชาจิตวิทยาจะอยู่ใน Bachelor of Arts และ Bachelor of Biomedicine หรืออย่าง Computer Science, Computing, Data Science และ Engineering ซึ่งเป็นสาขาที่นักศึกษานิยมเรียนต่อกันมาก สาขาวิชาเหล่านี้จะอยู่ใน Bachelor of Science
อย่างไรก็ตาม รายชื่อวิชาเลือกเสรีและสาขาวิชาจะขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่นักศึกษาเลือกเรียน โดยนักศึกษาจะต้องเลือกวิชาเอกอย่างน้อย 1 วิชา นอกจากนี้ เรายังมี Double Degree ที่นักศึกษาสามารถเรียนได้ 2 สาขา หลักสูตรที่มี double degree คือหลักสูตรที่มีดอกจัน * ต่อท้าย นั่นคือ Arts, Commerce และ Design
สำหรับหลักสูตรวิศวกรรมที่เมลเบิร์นเป็นหลักสูตร 5 ปี ส่วนปริญญาโทสาขานี้สามารถเรียนกับต่างสาขาอย่างธุรกิจได้ ซึ่งการเรียนแบบนี้ได้รับความนิยมมากเพราะเป็นวิชาที่ช่วยเสริมความรู้กันเป็นอย่างดี ทำให้นักศึกษามีโอกาสได้รับการจ้างงานที่เกี่ยวข้องและใช้ทักษะทางธุรกิจได้ เช่น การจัดการ การเงิน และการจัดการทรัพยากรมนุษย์
มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นจะไม่มีการรับตรง (direct entry) สำหรับหลักสูตร Medicine ดังนั้นนักศึกษาสามารถเรียนหลักสูตร Medicine หรือ Science และเลือกวิชาเอก Health Science ได้
สาขาสุดท้ายที่อยากจะเน้นคือสาขาจิตวิทยา (Psychology) จิตวิทยาเป็นสาขาที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เหตุผลหลักที่นักศึกษาเรียนต่อสาขานี้ คือพวกเขาต้องการที่จะนำทักษะและความรู้ที่ได้ไปใช้กับอาชีพหรือธุรกิจประเภทอื่น และอีกเหตุผลหนึ่งคือนักศึกษาต้องการเรียนจิตวิทยากับวิชาอื่น เช่น การตลาดและการโฆษณาเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภค เป็นต้น
การรับสมัครเรียนต่อระดับปริญญาตรี
เกณฑ์ในการรับสมัครปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นนั้นจะพิจารณาผลการเรียนของผู้สมัครเป็นหลัก หากนักเรียนได้รับคะแนน IB , A-level หรือ GPA ตามที่แสดงในตารางด้านล่าง นักเรียนสามารถเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นได้
ส่วนตารางนี้จะเป็นคะแนนวัดความรู้ภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ใช้ในการสมัครเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น
💬 สนใจเรียนต่อ University of Melbourne สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเรียนกับพี่ ๆ One Education เราเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ ยินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอนฟรี Add Line: @one-edu หรือ คลิกกรอกแบบฟอร์ม
Trinity College Foundation Studies (TCFS)
กรณีที่คุณมีคะแนนไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนดเล็กน้อย มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมีโปรแกรม Pathway ที่เรียกว่า “Trinity College Foundation Studies (TCFS)” นักเรียนจะเรียนหลักสูตรนี้ที่สถาบัน Trinity College ซึ่งตั้งอยู่ในวิทยาเขต Parkville ใจกลางเมืองเมลเบิร์น หลักสูตร TCFS เป็นหลักสูตรที่จะช่วยปูพื้นฐานความรู้และทักษะที่ต้องใช้ในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยให้กับนักเรียนต่างชาติเป็นอย่างดี โดยหลักสูตรนี้ นักเรียนจะเรียน 5 วิชา และจะใช้เวลาระหว่าง 7 ถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้เรียน
“หลักสูตร Trinity College Foundation Studies ของ Trinity College เป็นหลักสูตรที่การันตีการเข้าเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น หากนักเรียนได้สอบได้คะแนนขั้นต่ำตามที่สถาบันกำหนด”
💬 สนใจเรียนหลักสูตร foundation ที่ Trinity College เพื่อเข้าเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น สอบถามข้อมูลและสมัครเรียนผ่านทาง One Education ตัวแทนสถาบัน Trinity College อย่างเป็นทางการ บริการครบทุกขั้นตอนฟรี add Line: @one-edu
อย่างที่บอกไปแล้วว่าการรับสมัครเรียนของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นนั้นจะพิจารณาผลการเรียนของผู้สมัครเป็นหลัก ผู้สมัครจึงไม่ต้องยื่น essay ผลสอบอื่น ๆ เพิ่มเติม หรือจดหมายแนะนำตัว เพราะการรับเข้าเรียนของผู้สมัครจะขึ้นอยู่กับเกรดเฉลี่ยปีสุดท้าย (GPA), คะแนน IB หรือคะแนน A-level
ทุนการศึกษา
University of Melbourne มีทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนต่างชาติ โดยทุนการศึกษาของเมลเบิร์นจะมอบกับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี โดยไม่มีเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติม เรามีทุนการศึกษาของคณะโดยเฉพาะสำหรับ Bachelor of Commerce และ Bachelor of Arts และนักเรียนไม่จำเป็นต้องสมัครรับทุนการศึกษาแยกต่างหาก เพราะนักเรียนจะรับการพิจารณาทุนโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างทุนการศึกษา
- ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนดี
- ทุนส่วนลดค่าเล่าเรียน 100%
- ทุนส่วนลดค่าเล่าเรียน 50%
- ทุนให้เปล่ามูลค่า AUD 10,000
- ทุนการศึกษาของคณะ
- ทุนส่วนลดที่พัก
ค้นหาทุนการศึกษาทั้งหมดของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น คลิกที่นี่
ค่าเล่าเรียน
ค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นจะอยู่ระหว่าง AUD$ 30,112 – AUD$ 61,096 ต่อปี (เช่น ค่าเล่าเรียนของ Bachelor of Commerce ในปี 2020 จะอยู่ระหว่าง AUD$ 41,840 – AUD$ 44,756 ต่อปี)
** ค่าเล่าเรียนมีการปรับเปลี่ยนทุกปี กรุณาติดต่อทีมงาน One Education เพื่อตรวจสอบข้อมูลล่าสุด add Line: @one-edu
หอพักนักศึกษา
ในแต่ละปีมีนักเรียนไทยเดินทางมาเรียนที่เมลเบิร์นเป็นจำนวนมาก เราขอแนะนำให้นักศึกษาจองที่พักนักศึกษาล่วงหน้า ซึ่งการสมัครหอพักนักศึกษาผู้สมัครไม่จำเป็นต้องได้ offer จากทางมหาวิทยาลัยก่อน เมืองเมลเบิร์นมีผู้ให้บริการหอพักนักศึกษาหลายประเภท เช่น หอพักของมหาวิทยาลัย หรือหอพักเอกชนที่มีนักเรียนของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พักอยู่
นักเรียนควรลิสต์รายชื่อหอพักนักศึกษาที่ต้องการและควรพิจารณางบประมาณที่เหมาะสม ประเภทของที่พักก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรข้ามและควรเลือกให้เหมาะกับตัวเรา ควรถามตัวเองว่าเราอยากได้ห้องพักแบบส่วนตัวหรือแบบแชร์สิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกับนักเรียนคนอื่น หอพักที่แชร์ส่วนกลางมีข้อดีคือช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ จากนั้นอย่าลืมคำนึงถึงระยะทางว่าอยากพักใกล้กับมหาวิทยาลัยหรือไกลออกไปอีก ที่พักส่วนใหญ่จะห่างจากมหาวิทยาลัยประมาณ 5 – 15 นาที นักเรียนชั้นปีที่ 1 ที่มาเมลเบิร์นเป็นครั้งแรกมักจะเลือกหอพักของมหาวิทยาลัย ส่วนนักเรียนชั้นปีที่ 2 หรือ ชั้นปีที่ 3 บางคนเลือกที่จะพักห่างออกไปเล็กน้อยเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่พัก รวมถึงทำความคุ้นเคยกับเมืองเมลเบิร์นและระบบขนส่งสาธารณะ
สิ่งสุดท้ายที่นักเรียนควรพิจารณาคือการบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมของหอพัก เช่น มื้ออาหาร การสนับสนุนด้านวิชาการ และกิจกรรมต่าง ๆ ความแตกต่างของหอพักมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นและหอพักอื่นคือ การบริการอาหาร หอพักนักเรียนของมหาวิทยาลัยบางแห่งมีบริการอาหาร 3 มื้อต่อวันทุกวัน นักเรียนจะได้ทานอาหารร่วมกับนักเรียนคนอื่น ๆ ในห้องอาหาร ภาพด้านล่างคือ Ormond College หนึ่งในหอพักนักเรียนของมหาวิทยาลัยซึ่งดูคล้ายกับฮอกวอตส์เลย
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมวางแผนในการเลือกและจองหอพักล่วงหน้าก่อนเริ่มเรียนในรอบกุมภาพันธ์เพราะเป็นรอบ intake หลักที่นักศึกษามาเรียนกันเยอะมาก ต้องการคำแนะนำและหาหอพักนักเรียนที่เมลเบิร์น ติดต่อทีมงาน One Education แอดไลน์ @one-edu (มี @ ข้างหน้า)
ที่เมลเบิร์นมีสมาคมนักเรียนไทย (Thai Student Association) ที่นักเรียนจะพบปะพูดคุยและทำกิจกรรมกับรุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนคนไทยด้วยกัน สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทาง Facebook และ Instagram ของสมาคมนักเรียนไทยได้ตามด้านล่างนี้ค่ะ
Facebook: www.facebook.com/tsaunimelb
Instagram: @tsa_unimelb
สนใจเรียนต่อมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้กับพี่ ๆ ทีมงาน One Education เราเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นอย่างเป็นทางการ ยินดีบริการและดูแลเรื่องเรียนต่อ Australia ครบทุกขั้นตอนฟรี
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
5 เหตุผลดีๆ ทำไมต้องเลือกเรียนต่อที่ University of Southampton เรียนต่อเภสัชที่อังกฤษกับ University of Sunderland บอกต่อ 6 หลักสูตรปริญญาโทน่าเรียนที่ Nottingham University Business School ข่าวดี! รัฐบาลออสเตรเลียเลื่อนประเทศไทยขึ้น Level 2 แนะนำ 5 หลักสูตรยอดฮิตของ Oxford Brookes Universityหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา