สหราชอาณาจักรมีระบบการดูแลรักษาสุขภาพประชาชนที่ดีและมีประสิทธิภาพดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากครอบคลุมดูแลประชาชนของประเทศแล้ว ยังครอบคลุมสำหรับนักเรียนต่างชาติที่จะไปศึกษาต่ออีกด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราควรรู้ ทำความเข้าใจและรู้จักกับระบบการดูแลสุขภาพเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับตัวเราระหว่างที่ศึกษาต่อ 

ระบบดูแลรักษาสุขภาพแห่งชาตินี้ มีชื่อเรียกว่า “National Health Service (NHS)” ซึ่งเป็นนโยบายให้บริการรักษาพยาบาลแก่พลเมืองของสหราชอาณาจักฟรีทุกคนตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต โดยรัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณและสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด 

สำหรับนักเรียนต่างชาติที่เดินทางไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรระยะเวลานานกว่า 6 เดือนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมรักษาสุขภาพที่เรียกว่า “Immigration Health Surcharge (IHS)” ตั้งแต่เริ่มแรกในขั้นตอนการขอวีซ่าออนไลน์ ซึ่งระบบจะคำนวณให้ตามระยะเวลาเรียนของเรา ถือว่าเป็นกฎหมายส่วนหนึ่งที่เราต้องปฏิบัติตามเพื่อเข้าสู่ระบบดูแลสุขภาพของ NHS และเราจะได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลทั้งในกรณีปกติและฉุกเฉินฟรี 

บริการที่ NHS ให้ ครอบคลุมเกือบทุกด้านของสุขภาพ

• Primary Care (การดูแลเบื้องต้น): โดยเริ่มจากแพทย์ทั่วไป (GPs) คลินิกชุมชน เภสัชกร ทันตแพทย์ การดูแล และสุขภาพทั่วไป
• Secondary / Specialist / Hospital Care: หากจำเป็นต้องรักษาเฉพาะทาง การผ่าตัด หรือดูแลในโรงพยาบาล รวมไปถึงโรงพยาบาลฉุกเฉิน (ER / A&E)
• Emergency Care / Ambulance Services: พร้อมให้บริการดูแลฉุกเฉินและพยาบาลเคลื่อนที่ รวมถึงกรณีเร่งด่วน
• Mental Health Services: บริการด้านสุขภาพจิต การให้คำปรึกษา การบำบัด และสนับสนุนผู้มีปัญหาทางจิต
• Preventive Care, Screening & Public Health Programmes: เช่น โปรแกรมฉีดวัคซีน การคัดกรองโรคต่าง ๆ การดูแลสุขภาพโดยชุมชน และการให้คำแนะนำด้านสุขภาพ
• Maternity, Pediatric and Elderly Care: บริการตั้งครรภ์ คลอด ดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ และบริการดูแลระยะยาว
• Prescription & Pharmacy Services: การจ่ายยา & เภสัชกรรม แม้ยาบางตัวอาจมีค่าบ้าง แต่โครงข่ายเภสัชกรและร้านขายยาภายใต้ NHS ช่วยให้เข้าถึงยาที่จำเป็นได้ง่าย 

สิ่งที่ต้องทำมีอะไรบ้าง สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ไปเรียนต่อ UK

1. ลงทะเบียนกับ GP 

หลังจากที่ชำระค่า IHS เรียบร้อยแล้ว น้อง ๆ จำเป็นที่จะต้องลงทะเบียนกับ GP ก่อน เพื่อจะได้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย  

GP คือใคร ?
GP หรือ ชื่อเต็มว่า General Practitioner คือ แพทย์ทางเวชปฏิบัติทั่วไปที่เราต้องลงทะเบียนกับ GP ที่อยู่ใกล้กับที่พัก หรือ สถาบันการศึกษาที่เราเรียน หรือบางมหาวิทยาลัยมี GP ประจำอยู่ เพื่อที่เวลาเราเจ็บป่วยหรือต้องการการรักษาฉุกเฉิน จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที นักเรียนควรลงทะเบียนกับ GP เมื่อเดินทางไปเรียน โดยเฉพาะนักเรียนที่มีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง การค้นหา GP ที่อยู่ใกล้เรานั้นทำได้อย่างง่ายดาย เพียงกรอกรหัสไปรษณีย์เพื่อค้นหาและลงทะเบียนที่นี่   

2. ลงทะเบียนกับทันตแพทย์ 

นอกจากลงทะเบียนกับ GP แล้ว น้อง ๆ ควรลงทะเบียนกับทันตแพทย์ท้องถิ่นด้วย เพื่อดูแลด้านทันตกรรมของนักเรียน โดยปกติแล้ว บริการด้านทันตกรรมจาก National Health Service จะฟรี แต่ขึ้นอยู่กับระดับของการรักษาที่อาจไม่ครอบคลุมและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับการค้นหาและลงทะเบียนกับทันตแพทย์ท้องถิ่น สามารถทำได้จาก ที่นี่  

3. ค้นหาจุดฉีดวัคซีนและรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 

ในสหราชอาณาจักร ทุกคนไม่ว่าจะเป็นพลเมืองหรือนักเรียนต่างชาติ มีสิทธิ์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 จาก National Health Service โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเราสามารถค้นหาจุดฉีดวัคซีนที่อยู่ใกล้กับเรา หรือ นัดฉีดวัคซีนได้จากเว็บไซต์ NHS

📝 บทความโดย พี่เอม ที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรของ One Education และ เป็นรุ่นพี่ศิษย์เก่าจาก SOAS University of London 

บทความแนะนำ 

• แอปที่ต้องมี! ก่อนบินไปเรียนต่ออังกฤษ คลิกอ่านบทความ
• เช็กลิสต์! สิ่งที่ควรทำ ณ วันที่ก้าวเท้าเข้าประเทศอังกฤษ คลิกอ่านบทความ
• มารู้จัก Student Support ของมหาวิทยาลัยใน UK กันเถอะ คลิกอ่านบทความ

สนใจเรียนต่อ UK สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้กับพี่ ๆ One Education

ผู้เชี่ยวชาญด้านศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมามากว่า 30 ปี และเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างเป็นทางการ ยินดีให้บริการเรื่องเรียนต่อครบทุกขั้นตอนฟรี!   
Add Line: @one-edu    
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ    
โทรสอบถาม: 02-652-0718  

One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว

ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia

Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education