เช็กลิสต์! การเตรียมตัวสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษรอบ September Intake 2025
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่อังกฤษ | เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
- November 22, 2024
- P'Aim
น้อง ๆ หลายคนอาจจะกำลังเริ่มต้นหาข้อมูล เตรียมตัว เตรียมเอกสาร สำหรับการสมัครเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยของอังกฤษ ในบทความนี้ พี่เอม One Education จะมาแชร์เช็กลิสต์เอกสารที่ต้องเตรียมและตอบคำถามที่น้อง ๆ ถามกันเข้ามาบ่อย ๆ ในการเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ September Intake 2025 อยากรู้แล้วใช่มั้ยว่าจะมีลิสต์อะไรบ้าง มาอ่านต่อกันเลยค่ะ
ค้นหาหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่ใช่
ก่อนที่เราจะสมัครเรียนได้นั้น น้อง ๆ ควรเริ่มจากการค้นหาหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่ตรงใจเรากันก่อน การพิจารณาเลือกหลักสูตรระดับปริญญาโท พี่เอม One Education จะมาแนะนำเกณฑ์การพิจารณาให้ 5 ข้อ ดังนี้
- Set your purpose
อันดับแรก น้อง ๆ ต้องตั้งเป้าหมายในการเรียน ค้นหาเหตุผลที่เราอยากเรียนปริญญาโท เรียนแล้วอยากไปต่อยอดทำอะไรหลังจากเรียนจบ โดยหลักสูตรนี้จะทำให้น้อง ๆ บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้หรือไม่
- Do your research
ระหว่างที่น้อง ๆ ค้นหาข้อมูล หรือ รับคำแนะนำจากพี่ ๆ One Education แล้ว น้อง ๆ ควรเลือกพิจารณารายวิชาของหลักสูตร รวมถึงลักษณะการเรียนการสอน การวัดผล ระยะเวลาที่เรียน ซึ่งโดยส่วนใหญ่สามารถค้นหาได้จากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ น้อง ๆ ควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย เช่น แคมปัสมหาวิทยาลัย สิ่งอำนวยความสะดวกที่มหาวิทยาลัยมีให้นักศึกษา เช่น ห้องสมุด ห้องอ่านหนังสือ และ หอพัก เป็นต้น
- Check the entry requirements
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ น้อง ๆ จะต้องตรวจสอบเกณฑ์การรับเข้าของมหาวิทยาลัยก่อนทำการสมัคร บางหลักสูตรกำหนดให้ผู้สมัครมีพื้นฐานวิชาบางอย่างจากการเรียนปริญญาตรี หรือ บางหลักสูตร เช่น MBA กำหนดว่าผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์การทำงานก่อน หรือ บางหลักสูตรด้าน Art and Design กำหนดให้ผู้สมัครต้องส่ง Portfolio รวบรวมผลงานที่ผ่านมา เป็นต้น
- Consider the financial cost
แน่นอนว่าเรื่องเงินก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกมหาวิทยาลัย แต่ละมหาวิทยาลัยกำหนดค่าเล่าเรียนแตกต่างกัน รวมถึงแต่ละเมืองก็มีค่าครองชีพสูงต่ำ แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นน้อง ๆ ควรกำหนดงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายในการเรียนปริญญาโท 1 ปี มาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกหลักสูตรและมหาวิทยาลัยด้วย
- Consider the location
นอกจากการพิจารณาหลักสูตรที่เรียนแล้ว น้อง ๆ ควรพิจารณาเมืองที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ สภาพสังคม สภาพแวดล้อม อีกด้วย เพราะน้อง ๆ จะต้องใช้เวลา 1 ปี อยู่ที่เมืองหรือย่านนั้น น้อง ๆ ควรรู้ว่าเมืองนั้น มีการเดินทาง ที่พัก สภาพแวดล้อม เหมาะกับ Lifestyle ของเราหรือไม่ รวมถึงค่าครองชีพ การหางานพาร์ทไทม์ระหว่างเรียน เป็นต้น
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการสมัครเรียน
สำหรับเอกสารที่น้อง ๆ ต้องเตรียมเพื่อใช้สำหรับการสมัครเรียน มีดังนี้
1.ใบแสดงผลการเรียน (Transcript) และใบรับรองจบ (Degree Certificate) / ปริญญาบัตร (เป็นภาษาอังกฤษ)
สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเรียนปริญญาตรีปี 4 หรือ ปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัย สามารถใช้ผลการเรียนถึงเทอมแรกของปีสุดท้าย สมัครก่อนได้ โดยยื่นพร้อมกับใบรับรองการเป็นนิสิตหรือนักศึกษา (Student Status Letter)
2. หลักฐานที่แสดงถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษ เช่น ผลสอบ IELTS (ถ้ามี)
สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่ได้สอบวัดผลภาษาอังกฤษหรือยังไม่มียื่นให้มหาวิทยาลัย น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลใด ๆ เพราะเราสามารถส่งเอกสารข้ออื่นสมัครเข้าเรียนก่อนได้ ถ้ามหาวิทยาลัยตอบรับการเข้าเรียน ใบตอบรับการเข้าเรียนจะติดเงื่อนไขให้เราส่งผลภาษาอังกฤษตามไปภายใน Deadline ที่ระบุไว้
3. สำเนาหน้าพาสปอร์ต
ณ วันที่สมัครเรียนต้องไม่หมดอายุ และ ควรครอบคลุมระยะเวลาที่เรียน
4. ผลคะแนน IELTS
ผลคะแนนสอบความรู้ภาษาอังกฤษ IELTS ที่ยังไม่หมดอายุ สามารถตรวจสอบผลคะแนน IELTS ที่ต้องใช้ในการยื่นสมัครเรียนหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่น้อง ๆ สนใจสมัครเรียนได้กับพี่เอม หรือ พี่ ๆ ทีมงาน One Education
5. จดหมายแนะนำ (Letters of Recommendation)
สำหรับน้อง ๆ จบใหม่ ควรมีจดหมายแนะนำจากอาจารย์มหาวิทยาลัยอย่างน้อย 2 ท่าน ส่วนน้อง ๆ ที่เรียนจบแล้วและมีประสบการณ์การทำงาน 2 ปีขึ้นไป สามารถใช้จดหมายแนะนำจากอาจารย์มหาวิทยาลัย 1 ท่าน และ หัวหน้างานที่ทำงานอีก 1 ท่านได้
6. ประวัติย่อ (Resume / CV)
โดยประวัติย่อของนักเรียน ควรแสดงประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ข้อมูลประจำตัว และทักษะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรที่เราจะสมัครเรียน ไม่จำเป็นต้องใส่รูป หรือ ตกแต่งสี
7. Statement of Purpose (SOP) หรือ เรียงความแสดงจุดม่งหมายการเรียน
SOP ที่เราเรียกกันโดยย่อ ควรกล่าวถึงเกี่ยวกับประวัติของตัวเอง หลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่จบมา ประสบการณ์
ทำงาน (ถ้ามี) และกล่าวถึงหลักสูตรที่สนใจสมัครเรียน โดยแสดงเหตุผลที่ต้องการเรียนหลักสูตรนี้ รวมถึงจุดมุ่งหมายในอนาคตเมื่อจบหลักสูตรนี้
8. เอกสารประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอร์สที่จะไปศึกษาต่อ (Supporting Documents)
เช่น ในกรณีที่เป็นนักเรียนทุน อาจมีเอกสารรับรองทุนจากสถาบัน / องค์กร (Copy of Letter Confirming Sponsorship) หรือ Portfolio รวบรวมผลงาน สำหรับน้อง ๆ ที่สมัครเรียนหลักสูตร Art and Design
🟢 สนใจเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้กับพี่เอม One Education บริการฟรีทุกขั้นตอนครบจบในที่เดียว แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับพี่เอมโดยตรงได้ที่ Line ID: 0631754581
คำถามที่พบได้บ่อย (FAQs)
- ควรสมัครเรียนต่ออังกฤษเมื่อไหร่
ตอบ: สำหรับการสมัครเพื่อเข้าเรียนรอบ September Intake 2025 มหาวิทยาลัยในอังกฤษจะเปิดรับใบสมัคร 1 ปีล่วงหน้า โดยจะทยอยเปิดรับสมัครตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2024 เป็นต้นไป บางหลักสูตรที่ได้รับความนิยมสูง อาจจะปิดรับสมัครช่วงเมษายน – มิถุนายน หรือ อาจจะก่อนหน้านั้นหากที่เต็ม การสมัครเข้าเรียนปริญญาโทของอังกฤษ เป็นระบบ First Come First Served หมายความว่า สมัครก่อนได้ผลก่อน หากสมัครเรียนช้า (ถึงแม้ว่าเราจะผ่านเกณฑ์การรับเข้าของมหาวิทยาลัยก็ตาม) แต่ที่เต็มแล้ว เราก็อาจจะทำให้เราไม่ได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัย
- ต้องสอบ IELTS แบบไหน แล้ว Academic IELTS กับ Academic for UKVI ต่างกันอย่างไร
ตอบ: มหาวิทยาลัยของอังกฤษรองรับผลสอบ Academic IELTS ทั้ง 2 แบบคือ Regular Academic และ Academic for UKVI โดยทั้ง 2 แบบนี้มีรูปแบบการสอบเหมือนกันทุกประการ ไม่ได้ยากหรือง่ายแตกต่างกัน
ความแตกต่าง คือ IELTS Academic for UKVI เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษที่ได้รับการอนุมัติและรับรองจากกองวีซ่าและการตรวจคนเข้าเมือง โดย UK Home Office หรือรัฐบาลของสหราชอาณาจักร สำหรับน้อง ๆ ที่ตั้งใจไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษโดยใช้วีซ่าประเภท Tier 4 แต่มีผลภาษาอังกฤษไม่ผ่านเกณฑ์พิจารณาของมหาวิทยาลัย จะสามารถใช้ผลสอบนี้เข้าเรียน Pre-Sessional English Course ของมหาวิทยาลัยก่อนการเรียนปริญญาโทได้โดยที่ไม่ต้องสอบ IELTS ใหม่ แต่หากน้อง ๆ สอบ Regular Academic IELTS แล้วคะแนนไม่ถึงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด น้อง ๆ จะไม่สามารถนำผลคะแนนนี้ยื่นเรียน Pre-Sessional English Course ได้ ทำให้ต้องสอบ IELTS ใหม่
- พาสปอร์ตไม่ครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่เรียน ใช้สมัครเรียนไปก่อนได้หรือไม่
ตอบ: พาสปอร์ตที่ไม่หมดอายุ แม้ว่าจะไม่ครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่เรียน สามารถใช้ยื่นสมัครเรียนก่อนได้ และน้อง ๆ ควรหาเวลาไปทำพาสปอร์ตใหม่ให้เร็วที่สุด และยื่นเพิ่มเติมให้มหาวิทยาลัยก่อนที่มหาวิทยาลัยจะออกเอกสารทำวีซ่า หรือ CAS
- Statement of Purpose (SOP) ควรเขียนกี่หน้า
ตอบ: ความยาวที่เหมาะสมสำหรับการเขียน SOP คือ 1 หน้ากระดาษ A4 หรือ ประมาณ 500-600 คำ น้อง ๆ ควรเขียนให้กระชับ ตรงไปตรงมา และครอบคลุมประเด็นสำคัญที่ทำให้มหาวิทยาลัยเข้าใจและสนใจในตัวผู้สมัคร
- ข้อดีของการสมัครเรียนผ่าน One Education คืออะไร มีค่าใช้จ่ายหรือไม่
ตอบ: การบริการทุกขั้นตอนของ One Education ไม่มีค่าใช้จ่ายเรียกเก็บจากนักเรียน
บริการของ One Education เริ่มจากการแนะนำหลักสูตร มหาวิทยาลัย และข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถาบัน การตรวจสอบเอกสารการสมัครเรียนของนักเรียน การยื่นใบสมัครเรียน ติดตามผลกับมหาวิทยาลัย การทำวีซ่านักเรียน การจองที่พัก และให้ข้อมูลเตรียมตัวนักเรียนก่อนการเดินทาง โดยผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลน้อง ๆ เป็นผู้มีประสบการณ์การเรียนต่อที่ต่างประเทศโดยตรง
ข้อดีของการสมัครเรียนผ่าน One Education คือ น้อง ๆ จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือและแนะนำน้อง ๆ ทุกขั้นตอน ทำให้นักเรียนและผู้ปกครองมั่นใจได้ว่า การเรียนต่อที่ต่างประเทศของน้อง ๆ จะได้รับความสะดวกสบายและราบรื่น นอกจากนี้ One Education ยังจัดกิจกรรมและงานสัมมนาที่ให้ข้อมูลเรื่องการเรียนต่อของน้อง ๆ เป็นประจำ ทำให้น้อง ๆ มั่นใจได้ว่าจะได้รับข้อมูลที่อัปเดตและถูกต้องจากมหาวิทยาลัยค่ะ
📝 บทความโดย พี่เอม ที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรและประเทศออสเตรเลียของ One Education และ เป็นรุ่นพี่ศิษย์เก่าจาก SOAS University of London แอดไลน์เพื่อพูดคุยกับพี่เอมโดยตรงได้ที่ Line ID: 0631754581
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อที่อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรียนคอร์สภาษาอังกฤษระยะสั้น-ระยะยาว หรือเรียนต่อมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก สามารถติดต่อพี่ ๆ One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมา 30 ปี เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน ฟรี!!
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
TikTok: oneeducationthailand
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
เช็กลิสต์! การเตรียมตัวสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษรอบ September Intake 2025 รวมลิสต์! ทุนเรียนต่อออสเตรเลียปี 2025 แนะนำ School of Education and Childhood ที่ UWE Bristol ประกาศสำคัญ! ออสเตรเลียจำกัดโควตารับนักเรียนต่างชาติในปี 2025 แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทสาขาแพทย์ผิวหนัง (Clinical Dermatology) ที่ประเทศอังกฤษหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา