มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย อยู่ในกลุ่มมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำ Group of Eight ของออสเตรเลีย ในเรื่องการจัดอันดับมหาวิทยาลัยเรียกได้ว่าครองตำแหน่งอันดับ 1 และมักอยู่ในอันดับต้น ๆ จากการจัดอันดับในหลายสำนักไม่ว่าจะเป็น QS World University Rankings, Times Higher Education Rankings, ARWU เป็นต้น ด้วยชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพการเรียนการสอนและผลิตบัณฑิตคุณภาพเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มนายจ้างและองค์กรชั้นนำมักจับตามองและรับบัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นให้ร่วมทำงานในองค์กรเหล่านั้น

วิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น

มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมี 2 วิทยาเขตหลัก คือ วิทยาเขต Parkville และวิทยาเขต Southbank ซึ่งทั้ง 2 วิทยาเขตมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และสามารถเดินทางไปมาระหว่างวิทยาเขตได้อย่างสะดวกโดยรถบัสของมหาวิทยาลัย

วิทยาเขต Parkville

เป็นวิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่ในย่าน Parkville และอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองเมลเบิร์น สามารถเดินทางไปใจกลางเมืองได้ภายใน 20 นาที ภายในวิทยาเขตมีอาคารอันสวยงามและเก่าแก่ที่ทำจากหินทรายแต่พร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย

วิทยาเขต Southbank

เป็นที่ตั้งของคณะ Faculty of Fine Arts and Music ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณร่วมกับ Melbourne Conservatorium of Music และยังอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญอย่าง National Gallery of Victoria, Melbourne Theatre Company, ACMI X, Melbourne Recital Centre, The Australian Ballet, Chunky Move, Arts Centre และ Australian Centre for Contemporary Art ทำให้เป็นวิทยาเขตนี้เต็มไปด้วยพื้นที่การเรียนด้านอาร์ต ดนตรี การแสดง มีสตูดิโอและแกลเลอรีระดับโลก เรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีชีวิตชีวาและเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะของเมืองเมลเบิร์น

5 หลักสูตรปริญญาตรี ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นที่อยากแนะนำ

1. Bachelor of Science

หลักสูตร Bachelor of Science ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมีให้เลือกวิชาเอกมากถึง 43 สาขา ตั้งแต่ Chemistry, Marine Biology, Mathematics, Data Science ไปจนถึง Engineering และ IT โดย Major ที่มักได้รับความนิยมคือ Engineering, IT, Health Science หากยังไม่แน่ใจว่าเมเจอร์ไหนที่ใช่สำหรับเรา ในปีแรก น้อง ๆ สามารถเลือกเรียนแบบทั่วไปก่อนได้ หลังจากเรียนมา 1 ปี น้อง ๆ ก็จะเริ่มรู้แนวทางและวิชาที่สนใจมากขึ้น ทำให้เลือกเมเจอร์ในปีที่ 2 ได้ง่ายขึ้น

ทำไมควรเรียนต่อ Bachelor of Science ที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น

• No.1 สำหรับหลักสูตร Biological Sciences ของออสเตรเลีย และ No.385 ของโลก
• No.1 สำหรับหลักสูตร Computer Science and Information Systems ของออสเตรเลีย และ No.40 ของโลก
• No.2 สำหรับหลักสูตร Electrical Engineering ของออสเตรเลีย และ No.45 ของโลก
• No.2 สำหรับหลักสูตร Chemistry ของออสเตรเลีย และ No.35 ของโลก
• No.4 สำหรับหลักสูตร Mathematics ของออสเตรเลีย และ No.43 ของโลก

อ้างอิงการจัดอันดับจาก QS World University Rankings by subject 2023

2. Bachelor of Arts

หลักสูตร Bachelor of Arts ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมีให้เลือกกว่า 40 สาขาวิชาตั้งแต่ภาษา จิตวิทยา เศรษฐศาสตร์ไปจนถึงการสื่อสาร โดยสาขาที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Media and Communications, Politics and International Studies, Economics และ Psychology

มหาวิทยาลัยเมลเบิร์นมีชื่อเสียงด้าน Media and Communications (อันดับ 3 ของออสเตรเลีย) และ Linguistics (อันดับ 1 ของประเทศ) จากการจัดอันดับของ QS World University Rankings by Subject 2023

น้อง ๆ ที่เรียนหลักสูตรนี้ จะได้เรียนในอาคาร Arts West ซึ่งเป็นอาคารหลังใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับนักศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิตโดยเฉพาะ ภายในอาคารมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเรียนการสอนและมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทั้งนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอน

3. Bachelor of Commerce

หลักสูตร Bachelor of Commerce ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นจะมี 6 Majors ให้น้องๆ  เลือกเรียนในปีแรกหรือปีที่ 2 ตัวอย่างเช่น Accounting, Actuarial Studies, Economics, Finance, Management และ Marketing เป็นต้น หรือน้อง ๆ จะเลือกเรียนเป็น Double Major ก็ได้เช่นกัน

ทำไมควรเรียนต่อ Bachelor of Commerce ที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น

• No.1 สำหรับหลักสูตร Business & Management ในออสเตรเลีย และ No.37 ของโลก*
• No.2 สำหรับหลักสูตร Accounting & Finance ในออสเตรเลีย และ No.23 ของโลก*
• No.3 สำหรับหลักสูตร Economics ในออสเตรเลีย และ No.40 ของโลก*
• โครงสร้างของมหาวิทยาลัยได้ถูกการออกแบบมาตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษา โดยเริ่มจากสร้างพื้นฐานความรู้ที่สำคัญในด้านพาณิชยศาสตร์เพื่อให้น้อง ๆ ได้ค้นหาความสนใจและความชอบตัวเองและเลือกวิชาเอก มหาวิทยาลัยเน้นการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ มีประสบการณ์จริง รวงถึงทักษะที่สำคัญอย่างความมีไหวพริบ การแก้ปัญหา และทักษะความเป็นผู้นำ ซึ่งจะทำให้นักศึกษามีความโดดเด่นในสายตากลุ่มนายจ้าง

*อ้างอิงการจัดอันดับจาก QS World University Rankings by subject 2023

สนใจเรียนต่อ University of Melbourne สอบถามหลักสูตรที่สนใจ ทุนการศึกษา และสมัครเรียนได้กับ One Education ตัวแทนมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ และยินดีให้บริการครบทุกขั้นตอนฟรี add Line: @one-edu

4. Bachelor of Biomedicine

หลักสูตร Bachelor of Biomedicine ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นเปิดสอนสาขาวิชาเอกด้านชีวการแพทย์ถึง 15 สาขาวิชา เช่น Biotechnology, Genetics, Neuroscience, Pathology, Pharmacology, Psychology, Human Nutrition, Biochemistry & Molecular Biology เป็นต้น เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเรียนต่อ Health Science และอยากเป็นหมอ เป็นหลักสูตรที่จะช่วยเตรียมตัวน้อง ๆ ให้พร้อมกับสายงานอาชีพการรวมถึงการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นในด้าน ไม่ว่จะเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพ การวิจัยทางชีวการแพทย์ มีความเข้าใจแก่นสารของโครงสร้างร่างกาย หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงการวินิจฉัยโรค นอกจากนี้ น้อง ๆ ยังจะได้ฝึกและพัฒนาทักษะพื้นฐานในการคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหา การวิเคราะห์หลักฐานและการสื่อสารอีกด้วยค่ะ

ทำไมควรเลือกเรียนต่อ Bachelor of Biomedicine ที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น

• No.1 สำหรับหลักสูตร Medicine ของออสเตรเลีย และ No.24 ของโลก
• No.1 สำหรับหลักสูตร Psychology ในออสเตรเลีย และ No.19 ของโลก
• No.2 สำหรับหลักสูตร Dentistry ของออสเตรเลีย และ No.36 ของโลก
• No.2 สำหรับหลักสูตร Anatomy and Physiology ของออสเตรเลีย และ No.14 ของโลก

อ้างอิงการจัดอันดับจาก QS World University Rankings by subject 2023

5. Bachelor of Design

หลักสูตร Bachelor of Design ของมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นจะมี 12 Majors โดยเมเจอร์ที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ Architecture, Graphic Design และ Civil Engineering ในปีแรกน้อง ๆ จะได้เรียนรู้การออกแบบ แนวคิด และทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็น เช่น การออกแบบพื้นที่ เรื่องแสงและเสียง การเขียนโค้ด และการสร้างแบบจำลอง 3 มิติ เป็นต้น จากนั้นในปีที่ 2 น้อง ๆ จะได้เลือกวิชาเอกและวิชาเลือกที่สนใจ ในหลักสูตรนี้ น้อง ๆ จะได้เรียนทั้งด้านมนุษยศาสตร์และวิทยาศาสตร์ควบคู่กัน และเน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็นการทำโครงงานในสตูดิโอออกแบบ การเยี่ยมชมสถานที่ การทัศนศึกษา รวมถึงการพูดคุยกับการเหล่า Experts ในสายอุตสาหกรรมการออกแบบ เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้การทำงานแบบ Real-life และเตรียมความพร้อมของน้อง ๆ ให้ก้าวสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบหลังเรียนจบ

หากน้อง ๆ สนใจเรียนปริญญาโทต่อก็สามารถเลือกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกันเพื่อต่อยอดความรู้และเพิ่มโอกาสในการทำงานได้เช่นกัน
ตัวอย่างหลักสูตรปริญญาโทที่เรียนต่อได้หลังจบ Bachelor of Design

• Master of Architecture
• Master of Landscape Architecture
• Master of Architectural Engineering
• Master of Engineering (Civil)
• Master of Engineering (Civil with Business)
• Master of Engineering (Environmental)
• Master of Engineering (Mechanical)
• Master of Engineering (Mechanical with Business)
• Master of Engineering (Spatial)
• Master of Engineering (Structural)
• Master of Urban Planning
• Master of Property
• Master of Construction Management
• Master of Urban Design

ค่าครองชีพที่เมืองเมลเบิร์น

เมลเบิร์นเป็นเมืองที่นักเรียนทั่วโลกนิยมเลือกมาเรียนต่อที่ออสเตรเลีย และยังเป็นหนึ่งใน Top 10 Best Student Cities ของโลกอีกด้วย เรามาดูค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ในเมืองเมลเบิร์นกันเลยค่ะ

ข้อมูลและราคาข้างต้นอ้างอิงจากเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น และ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

*ราคาค่าเรียนอ้างอิงตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 AUD = 24 บาท ณ เดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

สนใจเรียนต่อออสเตรเลีย สอบถามข้อมูลหลักสูตร การรับสมัคร และสมัครเรียนได้กับพี่ ๆ ทีมงาน One Education ตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำรวมถึงกลุ่ม Group of Eight ของออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ ยินดีบริการและดูแลเรื่องเรียนต่อออสเตรเลียครบทุกขั้นตอนฟรี
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ

โทรสอบถามสาขาใกล้บ้านคุณ
สาขาชิดลม: 02-652-0718
สาขาปิ่นเกล้า: 02-884-5328
สาขาพระราม 2: 02-896-1445

One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว

ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia

Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education