การเรียนในมหาวิทยาลัยของ UK ดียังไง มาดูการสอนสไตล์บริติชกัน
- เคล็ดลับการเรียนต่อที่อังกฤษ | เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
- August 10, 2023
- One Education
หากน้อง ๆ ที่กำลังวางแผนเรียนต่อปริญญาโทที่สหราชอาณาจักร การทำความเข้าใจกับสไตล์การสอนก่อนลงสนามจริงถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย นอกจากระบบการสอนในมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรจะขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพด้านการสอนและการวิจัยมาอย่างยาวนานแล้ว มหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหราชอาณาจักรยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเก่าแก่และมีชื่อเสียงระดับโลกอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น University of Oxford และ University of Cambridge ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และ 13
ระบบการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักร
รูปแบบการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรจะเน้นการให้นักศึกษาเป็นศูนย์กลาง (Student-centered) หรือการโฟกัสที่ประสบการณ์การเรียนรู้ของนักศึกษาแต่ละคนเป็นหลัก นักศึกษาทุกคนจะได้มีบทบาทในห้องเรียนอย่างทั่วถึง และจะได้รับการสนับสนุนด้านทรัพยากรที่จำเป็นต่อการศึกษา เพื่อให้นักศึกษาแต่ละคนประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย
ในบทความนี้ พี่ ๆ One Education จะพาทุกคนไปสำรวจและเรียนรู้วิธีการสอนสไตล์บริติชที่ทำให้การเรียนต่อในประเทศอังกฤษนั้นมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ พร้อมแล้วมาอ่านต่อกันเลย
1. การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)
ทักษะแรกที่มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญอย่างมาก คือ การพัฒนาความคิดเชิงวิพากย์ ที่นอกจากจะเป็นส่วนสำคัญของรูปแบบการสอนในมหาวิทยาลัยของอังกฤษแล้ว ยังเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอีกด้วย ซึ่งการคิดเชิงวิพากย์เป็นการวิเคราะห์และประมวลผลสิ่งที่ได้รับรู้อย่างมีวิจารณญาณ และไตร่ตรองเพื่อหาผลลัพธ์หรือใช้ความคิดประกอบการตัดสินใจ ซึ่งต้องผ่านการฝึกฝนการตั้งสมมติฐาน การระบุตัวแปรอคติ และการพิจารณาความน่าจะเป็น เพื่อค้นหาแนวทางการแก้ไขปัญหาใหม่ ๆ หรือตัดสินใจทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
อีกทั้ง การพัฒนาความคิดเชิงวิพากย์ยังสำคัญกับการเรียนต่อในระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักร เพราะนอกจากจะช่วยให้นักศึกษาได้เสนอแนวคิดหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทฤษฎีอันซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ ยังช่วยพัฒนามุมมองความคิดแบบใหม่ ๆ ให้กว้างขึ้นอีกด้วย
ในบทความนี้ พี่ ๆ One Education จะพาทุกคนไปสำรวจและเรียนรู้วิธีการสอนสไตล์บริติชที่ทำให้การเรียนต่อในประเทศอังกฤษนั้นมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ไม่แพ้ประเทศอื่น ๆ พร้อมแล้วมาอ่านต่อกันเลย
2. การจัดกลุ่มเรียนขนาดเล็ก (Small Group Tutorials)
สิ่งนึงที่ทำให้รูปแบบการสอนของสหราชอาณาจักรมีความโดดเด่น คือ ระบบการสอนแบบกลุ่มย่อย นั่นคือ ในคลาสจะมีการจัดกลุ่มเรียน โดยแต่ละกลุ่มจะมีนักศึกษาตั้งแต่ 3 – 10 คน และดูแลโดยอาจารย์ผู้สอนที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้น ๆ ซึ่งการเรียนในระบบนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ตั้งคำถาม อภิปรายแนวคิด และรับคำแนะนำรายบุคคลเกี่ยวกับงานหรือโปรเจคที่กำลังทำ นอกจากนี้ การเรียนแบบกลุ่มย่อยนี้ยังช่วยกระตุ้นให้นักศึกษามีส่วนร่วมในการคิดเชิงวิพากย์ ได้ฝึกการโต้แย้ง และพัฒนาทักษะการสื่อสาร ซึ่งเป็นทักษะที่บริษัทหรือนายจ้างให้ความสำคัญอย่างมากอีกด้วย
3. การศึกษาด้วยตนเอง (Independent Study)
อีกหนึ่งรูปแบบที่เป็นหัวใจสำคัญในการเรียนในรูปแบบบริติช คือ การศึกษาค้นคว้าอย่างอิสระ หรือการศึกษาด้วยตนเอง นักศึกษาจะต้องมีความกระตือรือร้นที่จะค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตนเองอยู่เสมอ ซึ่งมหาวิทยาลัยก็จะมีการจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษา เพื่อให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงหน่วยความรู้ต่าง ๆ ได้ เช่น การเข้าใช้ห้องสมุด การใช้สื่อการสอนออนไลน์ รวมถึงบริการสนับสนุนทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเอง
การศึกษาในรูปแบบนี้จะช่วยให้นักศึกษาได้ค้นหาสิ่งที่ตัวเองสนใจ และพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำวิจัย อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่โลกแห่งการทำงานที่ต้องอาศัยการช่วยเหลือและค้นคว้าข้อมูลด้วยตนเองเป็นหลัก
4. การประเมินผล (Assessment)
การประเมินผลในมหาวิทยาลัยของอังกฤษแบ่งเป็นได้ทั้งการสอบ การเรียนในห้อง การนำเสนอรายงาน และการทำวิทยานิพนธ์ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้นักศึกษาได้แสดงความรู้และทักษะในรูปแบบต่าง ๆ และเปิดโอกาสให้ตัวเองได้รับคำติชมเกี่ยวกับผลงาน ซึ่งส่วนใหญนักศึกษามักจะถูกคาดหวังให้มีผลงานที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานระดับสูง เพื่อช่วยพัฒนาตัวนักศึกษามากกว่าการให้คะแนนเพียงอย่างเดียว ทั้งยังช่วยพัฒนานักศึกษาให้มี Growth Mindset และกระตุ้นให้นักศึกษากล้าที่จะเสี่ยงและเรียนรู้จากความผิดพลาด
5. การคัดลอกผลงานทางวิชาการ (Plagiarism)
สิ่งสุดท้ายที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เพราะถือเป็นเรื่องซีเรียสมาก ๆ ในระบบการสอนของมหาวิทยาลัยในอังกฤษ นั่นก็คือ การคัดลอกผลงานทางวิชาการ หรือ Plagiarism ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง วันนี้พี่ ๆ One Education จะมาแจกแจงให้ดูกันว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญและควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้น เพราะบทลงโทษสำหรับการคัดลอกผลงานทางวิชาการนั้นร้ายแรงมาก ๆ!
Plagiarism คือการที่คน ๆ หนึ่งคัดลอกผลงานของคนอื่นไปโดยไม่ได้มีการอ้างอิงที่ถูกต้องและเหมาะสม เช่น การ Copy – Paste ข้อความจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการนำข้อความไปเขียนใหม่ (Paraphrasing) แต่ไม่ได้มีการอ้างถึงเจ้าของข้อความหรือเจ้าของผลงานเดิม รวมถึงการเอาไอเดียของคนอื่นไปใช้โดยไม่ได้บอกให้เจ้าตัวทราบ
แล้วทำไมเราถึงต้องหลีกเลี่ยงการ Plagiarism ล่ะ? เพราะถ้าหากมีการคัดลอกผลงานทางวิชาการเกิดขึ้น มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรจะถือว่าการกระทำนั้นเป็นการละเมิดจริยธรรมทางวิชาการและเป็นการผิดจุดประสงค์ทางการศึกษาที่ต้องการพัฒนาให้นักศึกษามีทักษะความคิดเชิงวิพากย์และได้ฝึกฝนการค้นคว้าด้วยตนเอง ซึ่งการกระทำนี้อาจส่งผลให้เกิดการลงโทษทางวินัยตามมา นั่นหมายความว่าน้อง ๆ อาจจะถูกปรับตกในรายวิชา หรือทั้งหลักสูตรเลยก็ได้ และท้ายที่สุดคืออาจถูกปฏิเสธจากนายจ้างและกระทบถึงหน้าที่การงานในอนาคตเพราะการขาดความซื่อสัตย์
คงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นใช่ไหมล่ะ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงการคัดลอกผลงานทางวิชาการสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- น้อง ๆ ควรทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเขียนข้อความขึ้นใหม่และการคัดลอกข้อความเสียก่อน การเขียนข้อความขึ้นใหม่ (Paraphrasing) คือ การถอดหรือแปลความข้อความของคนอื่น และนำมาเรียบเรียงเขียนขึ้นใหม่ด้วยคำพูดของตัวเอง ซึ่งต่อให้เป็นการเขียนด้วยสไตล์ของตัวเองแต่เนื้อหาที่นำมายังเป็นไอเดียหรือผลงานของนักวิชาการคนอื่น ๆ ก็จำเป็นที่จะต้องอ้างอิงแหล่งที่มา ส่วนการคัดลอกข้อความ (Copying) คือ การนำข้อความหรือผลงานของคนอื่น แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ แต่ถ้าไม่มีการให้เครดิตที่เหมาะสม ก็ถือเป็นการลอกเลียนแบบทั้งสิ้น
- อย่างที่พี่ ๆ ได้เน้นย้ำไปในข้อที่แล้วถึงความสำคัญของการอ้างอิงหรือการให้เครดิตผลงานของคนอื่น มหาวิทยาลัยของอังกฤษเองก็มีรูปแบบการอ้างอิงที่ถูกต้อง เหมาะสม และเป็นที่ยอมรับในวงการวิจัย โดยหลัก ๆ จะมี 2 รูปแบบที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง นั่นก็คือแบบ Harvard และ APA น้อง ๆ จะต้องศึกษาให้ดีว่ามหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะไปเรียนต่อหรือเรียนอยู่นั้นใช้รูปแบบไหน และต้องรักษารูปแบบการใช้ให้เหมือนกันทั้งหมด ไม่ผสมกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นรูปแบบการสอนของสหราชอาณาจักรที่แตกต่างจากรูปแบบการสอนของประเทศไทยไม่น้อย หากน้อง ๆ เข้าใจและเตรียมพร้อมปรับตัวสำหรับการเรียนต่อปริญญาโทที่สหราชอาณาจักร การเรียนต่อก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แถมน้อง ๆ ยังสามารถตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัยและหลักสูตรที่มีสไตล์การสอนตรงกับความต้องการได้อย่างง่ายดายมากขึ้นอีกด้วย
สนใจเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รับคำแนะนำ และสมัครเรียนกับพี่ ๆ One Education ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อสหราชอาณาจักรมา 30 ปี เรายินดีให้คำปรึกษาและบริการทุกขั้นตอน ฟรี!!
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ
โทรสอบถาม: 02-652-0718
One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว
ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia
Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education
บทความล่าสุด
เช็กลิสต์! การเตรียมตัวสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษรอบ September Intake 2025 รวมลิสต์! ทุนเรียนต่อออสเตรเลียปี 2025 แนะนำ School of Education and Childhood ที่ UWE Bristol ประกาศสำคัญ! ออสเตรเลียจำกัดโควตารับนักเรียนต่างชาติในปี 2025 แนะนำมหาวิทยาลัยเรียนต่อปริญญาโทสาขาแพทย์ผิวหนัง (Clinical Dermatology) ที่ประเทศอังกฤษหมวดหมู่
เรื่องเล่าจากรุ่นพี่
เคล็ดลับการเรียนต่ออังกฤษ
เคล็ดลับการเรียนต่อออสเตรเลีย
หลักสูตรยอดนิยม
ทุนการศึกษา
โปรโมชั่นเรียนภาษา