ต่อจากบทความที่แล้ว ที่พี่ ๆ ทีมงาน One Education ได้แนะนำหลักสูตรสำหรับเรียนภาษาที่ออสเตรเลียกันไปแล้ว ในบทความนี้พี่ ๆ จะมาพูดถึงข้อมูลเบื้องต้นก่อนเตรียมตัวไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียกัน

ไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียพักที่ไหนได้บ้าง 

ไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย จะพักที่ไหนดี? น้อง ๆ สามารถจองที่พักแบบโฮมสเตย์กับทางสถาบันภาษาได้ โดยระบุจำนวนสัปดาห์ที่ต้องการเข้าพัก ซึ่งจะมีระยะเวลาขั้นต่ำคือ 4 สัปดาห์    

หากน้อง ๆ เลือกอยู่แบบโฮมสเตย์ (Homestay) จะเป็นการพักอาศัยกับคนออสเตรเลีย ซึ่งต้องบอกน้อง ๆ ก่อนว่าคนออสเตรเลียจะมีหลากหลายเชื้อชาติ อาจจะต้องมีการปรับตัวกัน เช่น เวลาในการเข้าห้องน้ำหรือการซักผ้า เป็นต้น ทางโฮสหรือเจ้าของบ้านจะจัดเตรียมห้องนอนส่วนตัวเอาไว้ให้ แต่ในส่วนของห้องอื่น ๆ เช่น ห้องน้ำ เราอาจจะต้องใช้ร่วมกันกับคนอื่น ๆ ในบ้าน  อย่างไรก็ตาม โฮมสเตย์ 1 หลังสามารถมีเด็กชาวต่างชาติเข้าพักได้มากกว่า 1 คน แต่จะแบ่งห้องนอนคนละห้องกัน และ ที่พักโฮมสเตย์ส่วนใหญ่จะอยู่นอกเมือง ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางไปสถาบันภาษาประมาณ 40-60 นาที ทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางมายังคลาสเรียน (พี่ ๆ One Education ขอบอกอีกนิดนึงว่า ที่ออสเตรเลียเค้าจะค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องการตรงต่อเวลา ดังนั้นน้อง ๆ พยายามอย่าเข้าคลาสสายกันนะ)   

สำหรับน้อง ๆ ที่อายุเกิน 18 ปี ส่วนใหญ่มักจะไปหาที่พักที่อยู่ใกล้สถาบันภาษาเองหลังครบกำหนดที่จองอยู่กับโฮมสเตย์ เพื่อการเดินทางที่สะดวกและประหยัดเงินค่าเดินทาง แถมได้ห้องพักหรืออพาร์ทเม้นท์ที่ถูกใจด้วย  

เลือกไป เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย ช่วงไหนดี

สภาพอากาศของประเทศออสเตรเลียมี 4 ฤดูกาล ได้แก่  

• ฤดูร้อน : ธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิประมาณ 25 – 42 องศาเซลเซียส 
• ฤดูใบไม้ร่วง: มีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิประมาณ 16- 26 องศาเซลเซียส 
• ฤดูหนาว : มิถุนายน  – สิงหาคม อุณหภูมิประมาณ 10 – 21 องศาเซลเซียส 
• ฤดูใบไม้ผลิ : กันยายน  – พฤศจิกายน อุณหภูมิประมาณ 15 – 26 องศาเซลเซียส 

ในแต่ละเมืองอาจจะหนาวมากน้อยไม่เท่ากัน เช่น ที่เพิร์ธ บริสเบน และโกล์ดโคสต์ จะมีอากาศที่อบอุ่นมากกว่าเมล์เบิร์นและซิดนีย์ค่ะ  

การเดินทางในออสเตรเลีย

ประเทศออสเตรเลียมีระบบขนส่งที่ดี ทำให้น้อง ๆ เดินทางโดยรถสาธารณะได้อย่างสะดวกสบาย มีทั้งรถบัสและรถไฟที่บริการในทุกเมือง อย่างเมืองเมลเบิร์นจะมีรถแทรมหรือรถราง เมืองซิดนีย์และเมืองบริสเบนก็จะมีเรือเฟอรรี่บริการข้ามฟาก ในแต่ละเมืองจะมีบัตรโดยสารแบ่งตามรัฐ  เช่น รัฐนิวเซาท์เวลล์ (ซิดนีย์) จะใช้บัตรโอปอลการ์ด (Opal Card), รัฐวิคตอเรีย (เมล์เบิร์น) จะใช้บัตรไมกิ (Myki Card) และ รัฐควีนส์แลนด์ (บริสเบนและโกล์ดโคสต์) จะใช้บัตรโกการ์ด (Go Card) เป็นต้น 

บัตรโดยสารของแต่ละรัฐสามารถใช้เพื่อเดินทางในระบบสาธารณะได้ทั้งหมดในบัตรเดียว และมีโปรโมชั่นแตกต่างกัน เพื่อกระตุ้นให้คนออกมาใช้บริการรถสาธารณะกันมากขึ้น น้อง ๆ สามารถเติมเงินผ่านตู้เติมเงินที่ตั้งอยู่ตามสถานีต่าง ๆ และจ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือเงินสดก็ได้ ก่อนเข้าระบบขนส่งสาธารณะจะมีเครื่องสแกนเพื่อให้น้อง ๆ นำบัตรไปแตะเพื่อสแกนที่ทางเข้า และเมื่อถึงที่หมายก็แตะที่เครื่องสแกนอีกครั้งก่อนออก พี่ ๆ ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่าลืมแตะบัตรเข้าออกทุกครั้งนะ เพราะหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าเราแอบเข้าไปใช้บริการโดยไม่จ่ายเงินจะถูกปรับหลายบาทเลย 

เรียนภาษาที่ออสเตรเลีย ใช้เอกสารอะไรบ้าง 

• หนังสือเดินทาง (Passport)  
• เอกสารการเรียน และ เอกสารการทำงานในกรณีที่อยู่ในวัยทำงาน  *ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น* 
• จดหมายแนะนำตัวเองเพื่อใช้ยื่นสมัครเรียน และสมัครวีซ่า (GTE) – โปรดสอบถามทีมงาน One Education  
• เอกสารการเงินของสปอนเซอร์ – สามารถใช้บัญชีตัวเองหรือพ่อแม่ผู้ปกครองได้ 
• ผลคะแนนภาษาอังกฤษ – ในกรณีที่สมัครหลักสูตรวิชาชีพ  

สำหรับผู้ที่สนใจไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย แนะนำให้เผื่อเวลาทำเรื่องไว้ล่วงหน้าก่อนวันเปิดเรียนอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้ทันเวลาที่จะเริ่มเรียน เนื่องจากตอนนี้ระยะเวลาในการรอผลการพิจารณาวีซ่าค่อนข้างนาน (บางเคสต้องรอนานถึง 2-3 เดือน หรือ อาจจะนานกว่านั้น)  

• ลงทะเบียนเรียนภาษา 12 สัปดาห์ขึ้นไป – สมัครวีซ่านักเรียน โดยผู้ถือวีซ่าประเภทนี้สามารถทำงาน Part-time ระหว่างเรียนได้ (ตามเงื่อนไขที่กำหนดในวีซ่า)  
• ลงเรียนเรียนภาษาน้อยกว่า 12 สัปดาห์ – สมัครวีซ่าท่องเที่ยว โดยผู้ถือวีซ่าประเภทนี้จะไม่ได้รับอนุญาติให้ทำงาน Part-time แต่สามารถเลือกชั่วโมงเรียนต่อสัปดาห์แบบที่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้ 

🟢 สนใจเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเรียนได้กับพี่ ๆ One Education ยินดีให้บริการครบทุกขั้นตอนฟรี Add Line: @one-edu หรือ คลิกกรอกแบบฟอร์ม

ทำเรื่องผ่าน Agency เรียนต่อ แล้ววีซ่าเรียนภาษาจะผ่านง่ายขึ้นไหม?

พี่ ๆ One Education ขอบอกตรงนี้ว่า ระยะเวลาในการพิจารณาวีซ่า และ ผลการตัดสินใบสมัครวีซ่าเป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่สถานทูต เท่านั้น ดังนั้น พี่ ๆ ทีมงาน One Education เป็นเพียงผู้ช่วยในการเตรียมเอกสารการสมัครวีซ่าที่ต้องแสดงตามที่ทางสถานทูตต้องการ รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สมัครวีซ่า  

ย้ำอีกครั้งก่อนจะจบบทความนี้ One Education บริการแบบครบวงจรในหนึ่งเดียว ตั้งแต่สมัครเรียน ช่วยตรวจสอบและเตรียมเอกสารการสมัครเรียนไปจนถึงทำสมัครวีซ่านักเรียน ดังนั้น หากน้อง ๆ ติดต่อพี่ ๆ One Education ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะพลาดขั้นตอนไหนไป เพราะพี่ ๆ จะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวคอยให้คำแนะนำ ติดต่อและอัปเดตน้อง ๆ ในแต่ละสเต็ป เพียงแค่น้อง ๆ เลือกหลักสูตรที่อยากเรียน เลือกเมืองที่อยากไป และบอกงบประมาณที่มีมาเท่านั้น ทางพี่ ๆ One Education ทุกสาขาพร้อมให้คำปรึกษาและช่วยดำเนินการให้ครบทุกขั้นตอน จบในที่เดียว โดย ไม่มีค่าบริการ ใด ๆ ทั้งสิ้น 

📝 บทความโดย พี่แสง ที่ปรึกษาด้านการศึกษาต่อประเทศออสเตรเลียของ One Education

สนใจเรียนต่อออสเตรเลีย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้กับทีมงาน One Education ตัวแทนมหาวิทยาลัยชั้นนำรวมถึงกลุ่ม Group of Eight ครบทั้ง 8 แห่งของออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ 
เรายินดีบริการและดูแลเรื่องเรียนต่อ Australia ครบทุกขั้นตอนฟรี
Add Line: @one-edu
คลิกกรอกแบบฟอร์ม เพื่อให้พี่ ๆ One Education ติดต่อกลับ

โทรสอบถามสาขาใกล้บ้านคุณ
สาขาชิดลม: 02-652-0718
สาขาปิ่นเกล้า: 02-884-5328
สาขาพระราม 2: 02-896-1445

One Education | Study Abroad. Simplified ให้ทุกเรื่องการเรียนต่อต่างประเทศของคุณเป็นเรื่องง่ายครบในที่เดียว

ตามทันทุกข้อมูลการเรียนต่อ UK & Australia

Facebook: One Education
Instagram: oneeducationthailand
Twitter: One Education
YouTube: One Education